กสิกรนำร่องช่วยผู้ประกอบการอุ้มพนักงาน ตั้งเป้า 1.5 หมื่นคน

กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – ธนาคารกสิกรไทยจัดโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่มีรายได้น้อย นำร่องช่วยผู้ประกอบการ 127 รายในจังหวัดภูเก็ต พยุงพนักงานกว่า 3,000 คน ระยะเวลา 6 เดือน และเตรียมขยายไปจังหวัดอื่นทั่วประเทศ ตั้งเป้าใช้งบ 500 ล้านบาท ช่วยพนักงานไม่ให้ตกงาน 15,000 คนทั่วประเทศ


นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นขณะนี้ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักสุด คือ พนักงานระดับล่างเงินเดือนต่ำกว่า 10,000 บาท หลังภาคธุรกิจได้รับผลกระทบด้านรายได้ บางแห่งใช้วิธีให้พนักงานหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน หรือการเลิกจ้าง จากสถานการณ์ขณะนี้คาดว่าอาจมีคนตกงานกว่า 10 ล้านคน ธนาคารกสิกรไทยจึงได้ทำโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” นำร่อง 2 ผู้ประกอบโรงแรมรายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข คือ ไม่มีการเลิกจ้างพนักงานหรือให้พนักงานหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งธนาคารกสิกรไทยจะติดต่อไปยังผู้ประกอบการ เพื่อเชิญเข้าร่วมโครงการผ่านการให้ความช่วยเหลือ อาทิ การลดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการนำส่วนต่างดังกล่าวไปจ่ายให้กับพนักงานแทน 

สำหรับจังหวัดภูเก็ตมีผู้ประกอบการประมาณ 127 ราย พนักงานรวมกันกว่า 3,000 คน โดยโครงการจะใช้ระยะเวลา 6 เดือน คาดจะใช้งบประมาณช่วยเหลือประมาณ 100 ล้านบาท  นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยจะขยายโครงการดังกล่าวไปทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าช่วยเหลือพนักงานระดับล่าง 15,000 คนทั่วประเทศ ใช้งบประมาณรวม 500 ล้านบาท 


นายบัณฑูร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกวิกฤติเศรษฐกิจท้ายที่สุดจะตกอยู่ที่ระบบธนาคาร แต่ด้วยทุนที่สะสมมาจากวิกฤติที่เคยเกิดขึ้น ทำให้สามารถรองรับแรงกระแทกได้พอสมควร ทั้งนี้ โครงการที่รัฐบาลดำเนินการ อาทิ การปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการผ่านธนาคารพาณิชย์ โดยรัฐบาลจะชดเชยความเสียหาย 70% นั้น จากอดีตที่ผ่านมาในสถานกาณ์วิกฤติเศรษฐกิจตัวเลขหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้  ดังนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจะต้องร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าหนี้เสียที่จะเกิดขึ้น หรือเงินที่สูญไปจะต้องลงไปถึงพนักงานที่เงินเดือนต่ำกว่า 10,000 บาท ซึ่งมีอยู่หลายล้านคนในระบบเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่การอุ้มเจ้าของกิจการ 

ด้านนายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมในเครือกะตะธานี  ซึ่งมีพนักงานรวมกว่า 1,800 คน ระบุว่าหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้ผู้มาใช้บริการโรงแรมในเครือลดลงมาก ล่าสุดปิดให้บริการโรงแรมในเครือทุกแห่งชั่วคราวและให้พนักงานส่วนใหญ่หยุดอยู่ที่บ้าน โดยยังได้รับเงินเดือนและสวัสดิการเช่นเดิม พร้อมประเมินว่าโควิด-19 จะอยู่กับเราอย่างน้อยอีก 18 เดือน และการฟื้นฟูของภาคธุรกิจจะทำได้ช้ากว่าปกติ เพราะวิกฤตินี้เกิดขึ้นทั่วโลก 

ขณะที่ประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป ยอมรับว่าวิกฤติครั้งนี้หนักสุด ซึ่งโรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ปมีพนักงานประมาณ 2,000 คน และปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1เมษายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ โรงแรมไม่มีนโยบายเลิกจ้าง เพราะเชื่อว่าเมื่อโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง พนักงานกลุ่มเดิมจะมีความสำคัญที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธุรกิจ เพราะมีประสบการณ์ทำงานและรู้จักหน้าที่ของตัวเอง ไม่ต้องเริ่มสอนงานใหม่ ทำให้การฟื้นธุรกิจทำได้เร็วขึ้น พร้อมวอนรัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนระดับล่างทุกคนให้เร็วที่สุด และที่สำคัญ คือ ขั้นตอนปฏิบัติที่ต้องเร็วที่สุดเช่นกัน.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไป ต่อเนื่อง