“พล.อ.ประวิตร” กำชับทุกหน่วยบูรการทำงาน ประเทศมั่นคง-ปชช.ปลอดโควิด

ทำเนียบฯ 16 เม.ย.-“พล.อ.ประวิตร” เรียกประชุมคณะกรรมการเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง เน้นบูรณาการทำงาน เชื่อมโยงทุกมิติ นำไปสู่การปฏิบัติ มีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม ยึดประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข ปลอดโควิด-19


พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (16 เม.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ครั้งที่ 1/2563 ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุม ได้รับทราบคำสั่งนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการภายใต้กลไกสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้แก่ คณะกรรมการบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 และมีการพิจารณาเห็นชอบกรอบแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการบูรณาการขับเคลื่อนฯ เพื่อผลักดันให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงบรรลุเป้าหมาย ตามตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการแก้ไข ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีการเตรียมแผนงานรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้กำชับคณะกรรมการบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ให้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและเชื่อมโยงกับคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนย่อยฯ ทั้ง 5 คณะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการให้ครอบคลุมแนวทางการพัฒนา(แผนระดับที่ 3) รวมถึงให้มีการรายงานและประเมินผลการปฏิบัติงาน


“พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำว่างานด้านความมั่นคงเป็นพื้นฐานของการพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน มีเป้าหมายสำคัญ คือ ประเทศชาติมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุขและยั่งยืน จึงขอให้คณะกรรมการและทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะต้องตระหนักถึงภาระหน้าที่ ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ มีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้อย่างแท้จริง สำหรับสถานการณ์โควิด-19 เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเร่งด่วน เพราะกระทบโดยตรงต่อเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง จึงต้องมีแผนงานและปฏิบัติงานให้ครอบคลุม ครบถ้วน ถูกต้อง และทันเวลา เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน” พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น ลาสิกขาแล้ว

“รองเจ้าอาวาสวัดดัง” ลาสิกขาแล้วกลางดึก หลังปมฉาวเปย์สีกาไม่อั้น บอกไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ-กลาง-ตอ.ลมแรง ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรงในภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ลมแรง และมีฝนฟ้าคะนอง 10%

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

หาทางออก แม่ทำกรงขังลูกติดยาหวังรักษา

กรณีแม่วัย 64 ปี ที่บุรีรัมย์ สร้างห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมรับลูกชายวัย 42 ปี กำลังจะกลับจากการบำบัด แต่ถูกตีความว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมหาทางออกในการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง

จับ 2 หนุ่มญี่ปุ่นอุ้มรีดเงิน ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ

สืบนครบาล จับชายชาวญี่ปุ่น 2 คน อุ้มเพื่อนร่วมชาติ ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ เรียกเงิน 3 แสนบาท พบหนีคดีจากญี่ปุ่นมาขายกัญชาในประเทศไทย