กรุงเทพฯ 15 เม.ย.- ผบ.ตร.ลงพื้นที่สุ่มตรวจจุดคัดกรอง พร้อมส่งความห่วยใยและขอบคุณจากนายกรัฐมานตรี ส่วนที่ประชาชนร้องเรียนถึงขั้นตอนตรวจจุดคัดกรองใช้เวลานานจนการจราจรติดขัด รับจะเร่งแก้ไข
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 เม.ย.63) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ออกสุ่มตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติประจำจุดตรวจจุดสกัด จำนวน 4 จุด ในเขตพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 2 นั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ฝากขอบคุณ พร้อมแสดงความเป็นห่วงเป็นใย เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากหน่วยร่วมปฏิบัติทุกนาย ที่เสียสละเวลา ทุ่มเททำงานเพื่อส่วนรวม โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชันจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำ ในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรายานพาหนะและบุคคล ตลอดจนการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อฯ และข้อแนะนำแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจจุดสกัด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. ได้มอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อีกด้วย
โดยจากรายงานการตั้งจุดตรวจจุดสกัด 970 กว่าจุดทั่วประเทศเมื่อคืนนี้ ยังคงพบว่า มีผู้ฝ่าฝืน กว่า 900 คน ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่หน่วยร่วมปฏิบัติทุกนายเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้แก่พี่น้องประชาชน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายป้องกันปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่กับหน่วยร่วมปฏิบัติ ออกตรวจตราในบริเวณถนนสายรอง หรือ ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับกุมการกระทำผิดในลักษณะที่เป็นการซ้ำเติมประชาชน
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับประเด็น ที่ปรากฏบนโซเชียลมีเดีย ถึงความซ้ำซ้อนของการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ที่ส่งผลกระทบให้พี่น้องประชาชนไม่ได้รับความสะดวกนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประสานงานร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยร่วมปฏิบัติ เพื่อพิจารณาปรับจุดตรวจและแนวทางการปฏิบัติให้มีความเหมาะสมเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด พร้อมฝากขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย หากจุดตรวจคัดกรองควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า (COVID-19)นั้น ไปกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ด้วยเจตนารมย์ ของรัฐบาล ในการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพื่อการควบคุมแพร่ระบาดและลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีเจตนาให้ประชาชนปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19)ให้มากที่สุด มิได้มีเจตนาให้พี่น้องประชาชนเสียเวลาแต่อย่างใด ประกอบกับจากการออกสุ่มตรวจในแต่ละพื้นที่นั้น ก็ได้รับทราบถึงสถานการณ์และสภาพปัญหาในการปฏิบัติ โดยจะได้นำมา ปรับเปลี่ยน แก้ไขการทำงานโดยเร็วต่อไป.-สำนักข่าวไทย