“พิธา” นำทีม ลงพื้นที่คลองเตย มอบสิ่งของจำเป็นให้ประชาชน

กรุงเทพฯ 13 เม.ย.-หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส.ของพรรค ลงพื้นที่เขตคลองเตย มอบสิ่งของจำเป็นช่วยเหลือ เผยชาวบ้านยังตกสำรวจไม่ได้รับเงิน 5,000 บาทอีกเป็นจำนวนมาก เสนอปรับการเยียวยาให้เป็นระบบถ้วนหน้า


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำ ส.ส.พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ชุมชนโรงหมู เขตคลองเตย เพื่อแจกจ่ายสิ่งของจำเป็น เช่น แอลกอฮอลล์เจล หน้ากากอนามัย พร้อมทั้งนำนมสำหรับเด็กไปแจกจ่ายให้กับเด็กเล็กภายในชุมชนด้วย เนื่องจากชุมชนดังกล่าวมีกลุ่มประชากรที่เป็นเด็กอ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ทีมงาน ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้สอบถามชาวบ้านถึงชีวิตความเป็นอยู่และการเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทะเบียนรับเงิน 5,000 บาท ที่มีชาวบ้านจำนวนมากยังไม่ได้รับ หรือยังไม่ได้ลงทะเบียน เนื่องจากเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต หรือทำไม่เป็น

นายพิธา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทีมงานและ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้พยายามลงพื้นที่พบปะและแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นให้แก่ประชาชนในหลาย ๆ พื้นที่ เท่าที่ข้อจำกัดต่าง ๆ จะเอื้ออำนวย โดยนอกจากการแจกจ่ายสิ่งของจำเป็น ยังถือโอกาสสำรวจสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรสา 2019 (โควิด-19) และการเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐด้วย


“ชุมชนโรงหมู เขตคลองเตย เป็นชุมชนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและเปราะบาง รัฐคิดระบบหรือนโยบายอะไรมา ก็มักจะได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ และยังเป็นชุมชนที่มีเด็กอ่อนอยู่ เท่าที่สำรวจมีประชากร 70% ถ้าไม่ตกงาน ก็โดนลดเงินรายได้ เราจึงอยากมาดูเรื่องนโยบายเราไม่ทิ้งกันด้วย โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องการลงทะเบียน หรือเปลี่ยนงานบ่อย สิ่งที่เคยลงในทะเบียนไว้จะไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริงและทำให้ไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงอยากมาดูว่าการไม่ได้เงิน 5,000 บาท มีผลมาจากอะไรและเพราะอะไร และจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวอีกว่า อีกปัญหาหนึ่ง คือ เรื่องการตกสำรวจ เช่น ในชุมชนนี้ ตามทะเบียนบอกว่ามีประชากร 200 ครัวเรือน แต่พอสำรวจจริง ๆ มี 550 ครัวเรือน คนที่ตกสำรวจแน่นอนว่าจะไม่มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างแค่เขตเดียว แต่ทั่วประเทศ เชื่อว่ามีคนตกสำรวจหรือไม่ สามารถขอรับสิทธิได้อีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเพราะลงทะเบียนไม่เป็น หรือลงทะเบียนผิด หรือไม่ผ่านการคัดกรองก็ตาม

“ผมคิดว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคัดกรองตรงนี้ ผมคิดว่าคงต้องเปลี่ยนวิธีคิดให้เป็นการดูแลถ้วนหน้าว่าจะทำอย่างไร ที่จะให้ประชาชนตั้งหลักได้ในสามเดือนแรก จากลงทะเบียน 25 ล้านคน จะมีคนที่ได้ 9 ล้านคนและไม่ได้อีกสิบกว่าล้านคนที่ต้องผิดหวัง ต้องมารอลุ้นว่าตกลงแล้วเข้าเกณฑ์หรือไม่เข้าเกณฑ์ ทั้ง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจริง ๆ ตรงนี้เราจะดูแลเขาอย่างไร วันนี้เราพยายามลงพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นในการลงทะเบียนรับเงิน 5,000 บาท พอลงได้อีกสักที่หรือสองที่ ก็น่าจะได้ข้อสรุปบางอย่าง แต่เท่าที่สำรวจมาถึงวันนี้ ส่วนตัวคิดว่าสุดท้ายจะต้องปรับให้เป็นการเยียวยาถ้วนหน้า ในประเทศอื่นหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มที่จะเริ่มคิดแบบนี้แล้ว ให้เป็นรายได้ขั้นต่ำถ้วนหน้า” นายพิธา กล่าว


ส่วนการป้องกันตนเองของชาวบ้านจากการแพร่ระบาดของไวรัสนั้น นายพิธา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ชุมชนแออัดแบบนี้ การทำมาตรการ social distancing เป็นไปได้ค่อนข้างยาก บ้านหลังหนึ่งอยู่กัน 4 คน สิ่งที่ทำได้ คือ การนำหน้ากาก เจลมาแจก เพื่อให้อย่างน้อยได้ป้องกันตนเองในระดับหนึ่งได้  ซึ่งเราจะรีบลงพื้นที่ในกลุ่มที่ตกหล่นแบบนี้อีกให้ครอบคลุมที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้ ๆ ที่พอทำได้และรับทราบมาว่ายังไม่ได้รับการช่วยเหลือ

ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะสมาชิกคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก สตรี คนชรา กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สิ่งที่ตนมีความกังวล คือ กลุ่มคนที่มีความเปราะบางที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ เด็ก รวมถึงเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งข้อมูลจากต่างประเทศ ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส พบว่าความรุนแรงในครอบครัวและการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงล็อคดาวน์นี้ จึงขอเรียกร้องให้มีการดูแลชีวิตของเด็กในช่วงที่โรงเรียนกำลังปิดนี้ ที่จำเป็นจะต้องให้เด็ก ๆ ได้รับประทานอาหารที่ครบถ้วน มีอาหารกลางวันสนับสนุน และมีนมโรงเรียนให้ดื่ม และชุมชนจะต้องช่วยกันดูแลไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นกับเด็ก รวมทั้งกรณีของความรุนแรงในครอบครัวด้วย ซึ่งแม้จะไม่ปรากฏ แต่ไม่ได้หมายความว่าเหตุการณ์จะลดน้อยลง แต่สังคมและชุมชนกำลังโฟกัสไปที่จุดอื่น ซึ่งตนเห็นว่าจำเป็นต้องมีการเพิ่มเติมอาสาสมัครและการดูแล ตลอดจนทักษะการดูแลกันในครอบครัวที่ทำให้มีความรุนแรงในครอบครัวลดลง ส่วนผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียงหรือที่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล จะไม่สามารถที่จะเดินทางไปโรงพยาบาลได้ตามปกตินั้น ขอเรียกร้องให้ผู้ที่มีความรู้หรือศูนย์บริการสาธารณสุขลงพื้นที่ติดตามว่ามีความยากลำบากและความจำเป็นมากน้อยขนาดไหนในการจัดยา เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 2 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]