กรุงเทพฯ 11 เม.ย.-ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ประกาศมาตรการลดภาระให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เวลา 4 เดือน
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีวงเงินกู้ทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 3 ล้านบาท และมีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน
35,000 บาท มีลูกค้าที่เข้าข่ายมาตรการ 1.1 ล้านบัญชี
ทั้งสถานะบัญชีปกติและสถานะบัญชีดอกเบี้ยผิดนัดหรือสถานะกฎหมาย
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ตามที่ ธอส. ได้จัดทำ “โครงการ
ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” เพื่อแบ่งเบาภาระลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
โดยภายหลังเริ่มเปิดให้แจ้งความประสงค์เข้าใช้ 4 มาตรการของ ธอส. ผ่าน Mobile
Application : GHB ALL ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 ล่าสุด ณ วันที่
10 เมษายน 2563 เวลา 8:00 น. มีลูกค้าของธนาคารเข้ามาตรการเป็นจำนวน 170,958 บัญชี
คิดเป็นวงเงินกู้ถึง 181,927 ล้านบาท และหลังจากที่พบว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19
มีแนวโน้มยาวนานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ทำให้บ่ายวันนี้คณะกรรมการธนาคารโดย
นายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการธนาคาร ได้มีมติเห็นชอบให้ ธอส.
จัดทำมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติม คือ มาตรการที่ 5
พักชำระเงินต้น และดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 4 เดือน
สำหรับกลุ่มลูกค้าทุกวัตถุประสงค์การกู้ที่มีวงเงินกู้ทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 3
ล้านบาท และมีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 35,000 บาท
ครอบคลุมลูกค้าปัจจุบันของธนาคารในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่เข้าข่ายใช้มาตรการได้ถึง
1.1 ล้านบัญชี ทั้งสถานะบัญชีปกติ และสถานะบัญชีดอกเบี้ยผิดนัดหรือสถานะกฎหมาย ส่วนดอกเบี้ยที่พักไว้หลังจากที่ครบระยะเวลาพักชำระหนี้
4 เดือน ลูกค้าต้องทยอยผ่อนชำระเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ครบภายในระยะเวลา 24
เดือน และเพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของ COVID-19
จากการเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ ธอส. จึงเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาตรการแจ้งความประสงค์ผ่าน
Mobile Application : GHB ALL โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา
ตั้งแต่วันที่ 13 – 30 เมษายน 2563
“การกำหนดให้ลูกค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ
ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB
ALL ด้วยตัวเองนั้น เนื่องจากลูกค้าแต่ละรายมีความต้องการความช่วยเหลือที่แตกต่างกัน
จึงสามารถเลือกใช้มาตรการที่เหมาะสมกับตนเองได้ ทำให้ทั้ง 4
มาตรการที่ธนาคารจัดทำไปก่อนหน้านี้ได้รับผลตอบรับดี
มีลูกค้าเข้าร่วมจำนวนมากทุกมาตรการ ทั้งนี้ ลูกค้าที่ไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรการใด
ๆ ที่ธนาคารจัดทำ สามารถส่งข้อมูลปัญหาผลกระทบด้านรายได้ที่ท่านได้รับจากกรณี COVID-19
ผ่าน Mobile Application : GHB ALL โดยธนาคารจะหาแนวทางบรรเทาผลกระทบเฉพาะรายต่อไป
รวมถึงผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส
COVID-19 หรือ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท
ของกระทรวงการคลังก็มีสิทธิเลือกใช้มาตรการของ ธอส.ได้เช่นกัน”นายฉัตรชัย
กล่าว
สำหรับลูกค้าที่เลือกใช้ทั้ง 4 มาตรการของ ธอส.
จนถึง ณ วันที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 8:00 น. ซึ่งมีจำนวน 170,958 บัญชี
คิดเป็นวงเงินกู้ถึง 181,927 ล้านบาทนั้น สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการที่ ธอส.
จัดทำมีความสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีความแตกต่างของดอกเบี้ยตามอายุสัญญา
แบ่งเป็น
มาตรการที่ 1 พักชำระเงินต้นระยะเวลา 3 เดือน
จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ
วงเงินกู้ทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 3 ล้านบาท
เป็นมาตรการที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ผ่อนชำระมาแล้วเป็นระยะเวลามากกว่า 2 ใน 3
ของระยะเวลาการผ่อนชำระตามสัญญากู้ เพราะจะมีจำนวนดอกเบี้ยในเงินงวดน้อยกว่าจำนวนเงินที่ไปหักเงินต้น
โดยมีลูกค้าใช้มาตรการแล้วจำนวน 61,445 ราย วงเงินกู้ 63,891 ล้านบาท
มาตรการที่ 2 พักชำระเงินต้นระยะเวลา 1 ปี
จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน และขยายระยะเวลากู้ออกไปอีก 10 ปี
เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่พักชำระเงินต้นแล้วการขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเพิ่มได้นานสูงสุดอีก
10 ปี จะทำให้เงินงวดรายเดือนของลูกค้าลดลง
เหมาะกับลูกค้าทั้งสถานะบัญชีปกติหรือสถานะบัญชี NPL ที่มีเงินงวดแบ่งเป็นดอกเบี้ยและเงินต้นในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน
เมื่อเข้ามาตรการแล้วจะมีเงินงวดให้ผ่อนชำระรายเดือนเหลือประมาณ 50%
ของเงินงวดเดิม ซึ่งมีลูกค้าใช้มาตรการแล้วจำนวน 52,286 ราย วงเงินกู้ 63,151
ล้านบาท
มาตรการที่ 3 พักชำระเงินต้นระยะเวลา 6 เดือน
พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน (กรอบวงเงินสินเชื่อ
50,000 ล้านบาท) เหมาะกับลูกค้าทั้งสถานะบัญชีปกติหรือสถานะบัญชี NPL ที่พ้นการใช้ดอกเบี้ยตามโปรโมชั่นในช่วง
2-3 ปีแรกของสัญญากู้ จะทำให้สามารถชำระเงินงวดด้วยดอกเบี้ยที่ลดลง โดยทุก ๆ
วงเงินกู้ 1 ล้านบาท จากเคยผ่อนชำระ 6,600 บาท/เดือน จะลดลงเหลือเพียง 3,400
บาท/เดือน และมีลูกค้าใช้มาตรการแล้วจำนวน 42,472 ราย วงเงินกู้ 40,886
ล้านบาท
มาตรการที่ 4 ลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี
และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือนเป็นระยะเวลา 6 เดือน
สำหรับลูกค้าที่อยู่ระหว่างใช้อัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรืออยู่ในสถานะกฎหมาย
โดยหลังจากเปิดให้แจ้งความประสงค์ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ล่าสุด ณ วันที่ 10
เมษายน 2563 เวลา 8:00 น. มีลูกค้าใช้มาตรการแล้วจำนวน 14,755 ราย วงเงินกู้
13,998 ล้านบาท โดยมีกรอบวงเงินสินเชื่อรวมกับมาตรการที่ 3 จำนวน 50,000
ล้านบาท
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถดาวน์โหลด Application
: GHB ALL ได้ที่ App Store หรือ
Play Store สอบถามรายละเอียดหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์
(Call Center) โทร 0-2645-9000 .-สำนักข่าวไทย