พลเมืองดีร่วมแจ้ง ป.ป.ส.แหล่ง “มั่วสุมเสพยา” ช่วงพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ป.ป.ส. 9 เม.ย.-ป.ป.ส. เผย หลังประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสการมั่วสุมยาเสพติดให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจเข้าดำเนินการรวม 14 ครั้ง กระจายทั่วประเทศ ล่าสุดยังพบกลุ่มเยาวชนมั่วสุมยาเสพติดที่เชียงใหม่ และสระบุรี 


นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส) กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาน ป.ป.ส. (ศปก.ป.ป.ส.) พบว่าภายหลังรัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสการมั่วสุมให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจเข้าดำเนินการรวม 14 ครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในจังหวัดหลัก ๆ ของแต่ละภูมิภาค ส่วนใหญ่รวมตัวกันในบ้านพักและที่พักเชิงพาณิชย์ ซึ่งยาเสพติดที่พบส่วนใหญ่เป็นยาบ้าและไอซ์  บางแห่งพบ ทั้งยาบ้า ยาอี เคตามีน และกัญชา และเกือบทุกแห่ง พบมีการดื่มสุรา  ร่วมด้วย


ทั้งนี้ การมั่วสุมเสพยาเสพติดในช่วงนี้ นอกจากฤทธิ์ของยาเสพติดจะทำลายสมองและร่างกาย เป็นสิ่งที่ผิดทั้งกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดและพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดและ     แพร่เชื้อโควิด-19 จากการอยู่ใกล้ชิดกันหรือใช้อุปกรณ์การเสพร่วมกันนั้น


“การมั่วสุมเสพยาเสพติด หากมีบุคคลใดบุคคลหนึ่งในกลุ่ม มีเชื้อโรคในร่างกายแล้ว การใช้อุปกรณ์การเสพไม่ว่าจะเป็นการสูบหรือฉีดร่วมกันจะนำไปสู่การแพร่เชื้อสู่กัน และการอยู่ภายในห้องเดียวกันใกล้ชิดกัน จะทำให้มีการแพร่เชื้อโควิด-19 สู่กันอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงขอให้หยุดพฤติกรรมการรวมกลุ่มกันเสพยาเสพติด และผู้ที่ยังหยุดหรือเลิกยาเสพติดไม่ได้ขอให้แสดงตัวเข้าขอรับการบำบัดรักษาด่วน โดยจะไม่ถือเป็นความผิด”เลขาธิการป.ป.ส. กล่าว

เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวเตือนด้วยว่า การมั่วสุมเสพยาเสพติด นอกจากจะเป็นอันตรายต่อตนเอง ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายยาเสพติด และเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งโทษจำคุกนั้นศาลอาจไม่รอลงอาญา และแม้เป็นช่วงที่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด แต่หน่วยงานรับผิดชอบทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และสำนักงาน ป.ป.ส. ขอยืนยันว่า จะยังดำเนินการปราบปรามและป้องกันยาเสพติด โดยเฉพาะการมั่วสุมยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการก่ออาชญากรรม และลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”