คุมเข้มอ่าวปากพนังป้องกันเรือประมงผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 7 เม.ย. – อธิบดีกรมประมงสั่งคุมเข้มอ่าวปากพนัง หลังเจ้าหน้าที่ตรวจการถูกเรือประมงผิดกฎหมายพุ่งชนหวิดดับ ย้ำดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด พร้อมทำความเข้าใจชุมชนร่วมมือไม่ทำประมงผิดกฎหมาย



นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต 2 (สงขลา) เคลื่อนย้ายกำลังพลอย่างเร่งด่วน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปากพนังในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย พร้อมบังคับใช้กฎหมายตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในพื้นที่อ่าวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปากพนังกำลังกู้เครื่องมืออวนรุน ถูกชาวประมงขับเรือหางยาวพุ่งชนได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และเรือตรวจการประมงทะเล 210 ได้รับความเสียหาย โดยชาวประมงบางส่วนที่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมายยังมีแนวโน้มที่จะกระทำผิดอีก 


ทั้งนี้ กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อผู้กระทำผิดและคำนึงถึงความปลอดภัยระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เป็นหลัก แบ่งกำลังพลออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดปฏิบัติการทางทะเลให้ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้เรือตรวจการประมง มีภารกิจหลักในการตรวจตราบังคับใช้กฎหมายตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กลุ่มชาวประมงส่วนใหญ่ที่ทำประมงด้วยเครื่องมือประมงถูกกฎหมายอุ่นใจในวิถีการทำประมง ชุดปฏิบัติการทางบกให้ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้รถยนต์ของทางราชการ มีภารกิจหลักในการลงพื้นที่สร้างการรับรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และพบปะพูดคุยเพื่อรับฟังปัญหาจากผู้นำชุมชนในพื้นที่เป้าหมายทั้งกลุ่มที่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมายและกลุ่มที่ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ 


สำหรับเหตุการณ์ทำร้ายเจ้าหน้าที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม เวลา 19.00 น. โดยหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปากพนังได้รับการประสานจากสำนักงานประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอสนับสนุนเรือตรวจการประมงและกำลังเจ้าหน้าที่ในการเข้ารื้อถอนลอบพับได้ (ไอ้โง่) หลังได้รับเบาะแสว่า มีการใช้เครื่องมือประมงดังกล่าวลักลอบทำประมงอย่างผิดกฎหมายหมายบริเวณพิกัดทุ่น 8 –  ทุ่น 9 พื้นที่อ่าวปากพนัง จึงส่งเจ้าหน้าที่ตรวจการประมง 3 นาย พร้อมเรือตรวจการประมงทะเล 210 ออกปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนับสนุนภารกิจดังกล่าว แต่ระหว่างเดินทางไปยังเป้าหมายได้ตรวจพบเรือยนต์ทำการประมงด้วยเครื่องมืออวนรุนซึ่งเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย เมื่อผู้อยู่เรือประมงดังกล่าวเห็นเรือของเจ้าหน้าที่ จึงทิ้งเครื่องมือและแล่นเรือหนีเข้าบริเวณน้ำตื้น เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดทำการประมงพบคันอวนรุนประกอบถุงอวนจึงเก็บกู้เครื่องมือประมงของกลาง เพื่อลากกลับหน่วย ระหว่างนั้นเรือหางยาว 3 ลำแล่นตามเรือเจ้าหน้าที่ ทางหัวหน้าชุดจึงสั่งการให้ตัดเชือกที่ลากจูงเครื่องมือประมงออก จากนั้นเรือหางยาว 1 ลำ ได้เร่งเครื่องยนต์เข้าพุ่งชนบริเวณกราบซ้ายด้านหลังของเรือตรวจการประมงทะเล 210 อย่างแรง ทำให้นายธนพล มูลสังข์ พนักงานประมงพื้นฐาน บ.2 เจ้าหน้าที่ตรวจการประมงได้รับบาดเจ็บ ฟันกรามล่างขวาหัก 2 ซี่และมีแผลฉีกขาดบริเวณแก้มและภายในช่องปากแพทย์ทำการเย็บบาดแผล 13 เข็ม ส่วนเรือตรวจการประมงทะเล 210 ได้รับเสียหาย กระปุกเรือขาด ฐานโรลบาร์หลุด และโรลบาร์บางส่วนฉีกขาดคดงอเสียรูป 

อธิบดีกรมประมง กล่าวต่อว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความที่ทางสถานีตำรวจภูธรอำเภอปากพนัง พร้อมร่วมกับทางตำรวจเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมายแล้ว พื้นที่นี้มีชาวประมงบางส่วนไม่พอใจการปฏิบัติงานอย่างจริงจังของเจ้าหน้าที่ประมงให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้หากชาวประมงไม่เห็นด้วยกับร่างมาตรการต่าง ๆ ที่กรมประมงจะประกาศใช้ ขอให้ส่งผู้แทนมีตัวแทนมาให้ข้อคิดเห็นร่วมกันเพื่อให้ข้อกำหนดเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย 

“ไม่ต้องการให้ใช้กำลังทำร้ายกันอย่างรุนแรงจนอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต แต่ครั้งนี้กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านอ่าวปากพนังเดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ให้มีกำลังใจปฏิบัติตามกฎหมายต่อไป หากพบผู้กระทำประมงผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดทุกจังหวัดหรือ กองตรวจการประมง กรมประมง โทร. 02-561-4691” อธิบดีกรมประมง กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]