ชลบุรี 6 เม.ย.- ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งไล่ล่ามือฆ่าเด็กชายวัย 11 ปีที่อยู่ระหว่างหลบหนี ขณะที่ชุดสืบสวนสนธิกำลังออกติดตามกระชั้นชิด คาดว่ายังกบดานในพื้นที่
สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธมีดขอ ฟันคอเด็กอายุ 11 ขวบ เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ที่บริเวณป่าในพื้นที่หมู่ 2 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจเป็นชาวเมียนมา ชื่อ “นายวัน” อายุ 51 ปี มีศักดิ์เป็นสามีใหม่ของยายเด็กที่เสียชีวิต
ขณะที่ชุดสืบสวน สภ.หนองขาม ลงพื้นที่เก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุ รวมถึงหาเบาะแสต่างๆ หลังจากแม่ของเด็กชายผู้เคราะห์ร้ายสงสัยว่า “นายวัน” เป็นผู้ก่อเหตุ และหลังเกิดเหตุ “นายวัน” หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะที่จากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่า คนร้ายยังกบดานในพื้นที่ จึงระดมกำลังเดินเท้าเข้าตรวจสอบตามจุดต่างๆ ทั้งบ้านโค้งดารา, บ้านหนองเลง และบริเวณใกล้เคียง แต่ยังไม่พบตัว
แม่ผู้เสียชีวิตไม่ให้อภัยมือฆ่า แต่ยังไม่ทราบแรงจูงใจ
ด้าน น.ส.มัลลิกา จันทร์ดวง อายุ 27 ปี แม่ของเด็กชายวัย 11 ปีที่เสียชีวิต นำเอกสารต่างๆ มามอบให้เจ้าหน้าที่ เพื่อนำส่งร่างของลูกชายไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าวานนี้ (5 เม.ย.) ลูกชายออกไปจากบ้าน จึงบอกญาติให้ช่วยกันตามหาในไร่มันสำปะหลัง ก่อนพบลูกฟุตบอลของลูกชาย รวมทั้งมีดขอของ “นายวัน” แต่ไม่พบตัวนายวัน และลูกชาย จึงออกตามหาจนถึงช่วงเย็น แต่ยังไม่พบตัว กระทั่งตัดสินใจแจ้งความคนหาย ก่อนพบศพลูกชาย โดยมั่นใจว่า “นายวัน” ต้องเป็นคนร้าย แต่ไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ในช่วงที่ “นายวัน” พยายามขอมาคบกับแม่ของตนเอง (ยายของเด็ก) คนที่บ้านต่างรู้สึกไม่ชอบ จนทำให้ “นายวัน” โมโหขู่ว่าจะฆ่าให้ตายทั้งหมด และที่ผ่านมาเคยก่อเหตุใช้เชือกรัดคอแม่ของตนเองมาแล้ว จนต้องย้ายออกจากบ้านมาอยู่กับตนเอง และ “นายวัน” พยายามตามมาง้อตลอด แต่ไม่เป็นผล อีกทั้งช่วงหลังทราบว่า “นายวัน” กำลังตกงาน ประกอบกับเป็นคนดื่มเหล้าเป็นประจำ จึงคาดว่ามั่นใจว่าเป็นผู้ก่อเหตุ
ผบ.ตร.สั่งสกัดมือฆ่าตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า คดีคืบหน้าไปมาก และทราบตัวคนร้ายแล้วว่าเป็นชายชาวเมียนมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปูพรมกดดัน โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่มีชายแดนติดกับเมียนมา ประสานไปยังหน่วยงานความมั่นคง เพิ่มความเข้มเฝ้าระวังตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อสกัดการหลบหนีออกนอกประเทศ.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง