รวบโจ๋ยิงคู่อริ หลังหลบหนีคดีนาน ๗ ปี

กรุงเทพฯ 3 เม.ย.- กองปราบรวบโจ๋ยิงคู่อริ หลังหลบหนีคดีนาน ๗ ปี


นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ฐาน“ร่วมกันพยายามฆ่า” โดยจับกุมได้บริเวณโรงพยาบาลสงขลา ต.พะวง อ.เมือง จว.สงขลา

พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อประมาณวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 เวลาประมาณ 22.20 น. นายวรพจน์ (ผู้ต้องหา) ได้ร่วมกับเพื่อนอีกคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปหาคู่อริซึ่งได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทไม่พอใจกันมาก่อน เมื่อเจอคู่อริได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่คู่อริจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นทั้งคู่ได้หลบหนีการจับกุมตัวมาโดยตลอด เป็นเวลานานกว่า 7 ปี 


จากการสืบสวนพบว่านายวรพจน์ (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาทำงานอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สงขลา จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอหงส์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพื่อเข้าตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่พบผู้ต้องหาเดินอยู่บริเวณข้างอาคารโรงพยาบาลสงขลา ต.พะวง อ.เมือง จว.สงขลา จึงได้แสดงตัวและได้แสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาอ่านดูจนเป็นที่พอใจแล้ว นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

จากการตรวจสอบประวัตินายวรพจน์ (ผู้ต้องหา) มีหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ปี 2556 ข้อหา”ข่มขืนกระทำชำเรา, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยข่มขู่ว่าจะทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ จนผู้ถูกข่มขืนยอมเช่นว่านั้น, พรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล, มีอาวุธปืน เครื่องกระสุน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พาอาวุธปืนไปติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” อีก ๑ หมาย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก