กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – ราคาน้ำมันถูกไม่ช่วย 2 เดือนแรกยอดใช้น้ำมันหดตัวร้อยละ 5.3 จากพิษ COVID-19 “ซัสโก้” เตรียมปรับแผน แต่ยืนยันไม่ลดคน
กรมธุรกิจพลังงานแจ้งสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ของปี 2563 ว่าภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.3 โดยกลุ่มดีเซล ลดลงร้อยละ 2.0 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลงร้อยละ 4.4 น้ำมันเตาลดลงร้อยละ 33.8 น้ำมันก๊าด ลดลงร้อยละ 9.2 LPG ลดลงร้อยละ 12.9 และ NGV ลดลงร้อยละ 12.6 ยกเว้นกลุ่มน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3
สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 31.8 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.3 โดยกลุ่มแก๊สโซฮอล์มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 30.95 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นร้อยละ 1.1 ขณะที่น้ำมันเบนซินมีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 0.8 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 22.2 สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ พบว่าแก๊สโซฮอล์อี 20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 6.7 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.01 บาท/ลิตร ด้านแก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 14.1 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 แก๊สโซฮอล์ 91 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 9.0 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 6.2 และอี 85 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 3.6
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 64.6 ล้านลิตร ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น ร้อยละ 2.5 โดยบี 7 มียอดใช้ 53.4 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 18.9 บี 10 ยอดใช้ 3.9 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562) และบี 20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 7.3 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561)
ด้าาการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 20.6 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 4.4 เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินอย่างมีนัยสำคัญ การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 15.8 ล้าน กก. ลดลงจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 12.9 โดยปริมาณการใช้ภาคปิโตรเคมีลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.5 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 24.5 ภาคขนส่งมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.6 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 13.5 ภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.9 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 1.9 และภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.8 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 1.8 และการใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.9 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 12.6
ด้ารการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง มีปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 922,977 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 10.3 คิดเป็นมูลค่า 59,406 ล้านบาท/เดือน เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นทำให้ต้องลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเข้ากลั่นลง สำหรับน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณนำเข้าลดลงอยู่ที่ 30,392 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 64.9 คิดเป็นมูลค่า 1,947 ล้านบาท/เดือน
ส่วนการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณส่งออกลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 175,222 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลง ร้อยละ 6.7 คิดเป็นมูลค่า 11,234 ล้านบาท/เดือน
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO เปิดเผยว่า บริษัท เตรียมทบทวนแผนลงทุนธุรกิจน้ำมันปีนี้ใหม่ หลังจบการดำเนินงานไตรมาส 1 ปีนี้ โดยเบื้องต้นพบว่า ยอดขายน้ำมันของบริษัทปรับลดลงมากจากปกติจะมียอดขายต่อวันประมาณ 2-3 ล้านลิตร เพราะโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนเดินทางน้อยลงมาก ทั้งจากการท่องเที่ยวและประชาชน มาตรการทำงานที่บ้าน “Work from Home” ยืนยันว่าบริษัทไม่มีแผนจะปรับลด หรือเลิกจ้างพนักงานที่มีประมาณ 2,000 คน และปั๊มซัสโก้มีรวม 240 แห่งทั่วประเทศ
ส่วนราคาน้ำมันที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 18 ปีที่ 20 ดอลลาร์สหรฐต่อบาร์เรล นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เป็นผลกระทบหลักจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลให้การใช้น้ำมันเพื่อกิจกรรมต่าง ๆ หายไป แต่มองว่าราคาขณะนี้เป็นสถานการณ์ช่วงสั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น เพราะราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะทำให้แหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ เช่น ตะวันออกกลาง รัสเซีย เอาตัวรอดได้ แต่แหล่งผลิตเกิดใหม่ในแถบทะเลเหนือ เช่น ยุโรป และแหล่งเชลล์ออยล์ในสหรัฐ อาจไม่สามารถแบกรับต้นทุนระดับนี้ได้ และคงจะต้องมีการกำลังมาตรการออกมากพยุงราคาเป็นแน่
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า ในอดีตราคาน้ำมันเคยลดลงต่ำมากในช่วงเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 แต่หากเปรียบเทียบกันแล้วสถานการณ์ราคาน้ำมันช่วงนี้ถือว่าลดลงแรงกว่า และมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบจะลดลงไปแตะระดับกว่า 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงสั้น ๆ หากผู้ผลิตน้ำมับดิบไม่หันหน้ามาเจรจากันอย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย