บุรีรัมย์ 30 มี.ค. – ความวิตกกังวลการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อาจเป็นเพียงแรงจูงใจหลอกๆ ในการก่อจลาจลในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะแกนนำที่ปลุกปั่นเพื่อนผู้ต้องขังนับ 100 คน เพิ่งถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตในคดียาเสพติดเมื่อ 5 วันก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง 
ผู้ต้องขัง 100 คน ก่อเหตุจลาจล ทุบห้องเยี่ยมญาติเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ หลบหนีออกมาได้ 11 คน วางเพลิงเรือนนอน โรงฝึกอาชีพ โรงเลี้ยง และอาคารต่างๆ เสียหายเกือบทั้งหมด เหลือเพียงสถานพยาบาล เหตุเกิดราว 11.30 น. วานนี้ คลี่คลายช่วง 19.00 น. วันเดียวกัน กินเวลาเกือบ 8 ชั่วโมง ส่วนผู้ต้องขังที่หลบหนีจับกุมได้แล้ว 10 คน ยังเหลืออีก 1 คน คือนักโทษชายธันยพงศ์ สินพูล ซึ่งตำรวจกำลังไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง 
ผลการสอบสวนพบว่าแกนนำเพิ่งถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต คดียาเสพติด เมื่อ 5 วันก่อน โดยมีการจงใจปล่อยข่าวว่ามีคนติดเชื้อโควิด-19 ปลุกปั่นสร้างแรงกดดันให้ผู้ต้องขังมีอารมณ์ร่วมจนก่อเหตุจลาจลขึ้น ความวิตกกังวลในโควิด-19 จึงอาจเป็นเพียงแรงจูงใจหลอกๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอเวลาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ผลพวงเหตุจลาจล เจ้าหน้าที่ต้องเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังกว่า 2,000 คน กระจายไปยังเรือนจำโดยรอบในจังหวัดต่างๆ ถึง 18 แห่ง จนเกือบ 05.00 น. วันนี้ จึงแล้วเสร็จ ญาติผู้ต้องขังต่างมาติดตามข่าวที่เรือนจำแต่เช้า ใกล้เที่ยงเจ้าหน้าที่จึงทยอยนำรายชื่อที่ได้รับการยืนยันจากเรือนจำปลายทางมาติดบอร์ดด้านหน้าเรือนจำบุรีรัมย์ ก่อนย้ายไปยังหอประชุมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ที่อยู่ในร่มและกว้างขวางกว่า 
หญิงชราคนนี้เป็นห่วงลูกชายจนนอนไม่หลับ ได้ยินข่าวลือว่ามีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จึงรีบมาติดตามข่าว ได้ยินจากปากเจ้าหน้าที่ว่าทุกคนปลอดภัยก็สบายใจขึ้นมาในระดับหนึ่ง 
แม้จะเป็นแรงจูงใจซ่อนเงื่อน แต่เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์พยายามสื่อสารว่ามีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อให้ญาติและผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศคลายความวิตกกังวล.-สำนักข่าวไทย
