มาตรการติดตามผู้โดยสารรถสาธารณะ

กรุงเทพฯ 26 มี.ค. – วันนี้เป็นวันแรกที่ บขส.ใช้มาตรการ Social Distancing บนรถทัวร์โดยสาร และมีการคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการบันทึกข้อมูลผู้โดยสาร เพื่อใช้ติดตามตัวกลุ่มเสี่ยง 


การจัดให้ผู้โดยสารนั่งเว้นระยะห่าง บนรถทัวร์โดยสารของ บขส. เป็นมาตรการ Social Distancing เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ซึ่งเริ่มใช้วันนี้ (26 มี.ค.) เป็นวันแรก หลังจากพบว่า พื้นรถโดยสารสาธารณะมีความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่กระจายได้ง่าย ผู้โดยสารที่จะขึ้นรถ ต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายถึง 2 จุด ทั้งก่อนเข้าอาคาร และก่อนออกไปยังชานชาลา ต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ซึ่งจะมีติดตั้งอยู่บนรถโดยสารทุกคัน 


แม้รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และขอความร่วมมืองดเดินทาง แต่ประชาชนบางส่วนยังต้องการกลับภูมิลำเนา การจองตั๋วรถโดยสารเต็มทุกเส้นทาง จนถึง 30 เมษายนนี้ ทำให้ บขส.ต้องงดจำหน่ายตั๋วรถโดยสาร 


ผู้โดยสารยอมรับว่า การเดินทางด้วยรถโดยสารมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เพราะต้องอยู่ในสถานีขนส่งที่คนมารวมตัวกันจำนวนมาก และต้องโดยสารอยู่บนรถหลายชั่วโมง แต่ก็ยอมเสี่ยง เพื่อให้ได้เดินทาง

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. ระบุว่า ได้เพิ่มการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ทั้งการจำกัดคนเข้าใช้พื้นที่ในสถานีขนส่ง และบนรถโดยสาร แต่เมื่อประชาชนยังจำเป็นต้องเดินทาง จึงต้องคัดกรองเข้มงวดมากขึ้น โดยรถทุกคัน ทุกเส้นทาง ต้องบันทึกข้อมูลผู้โดยสาร ทั้งข้อมูลส่วนตัวและจุดหมายปลายทาง เพื่อใช้ตรวจสอบย้อนหลัง เมื่อถึงปลายทางจะมีการตรวจสอบอีกครั้งว่า ผู้โดยสารเดินทางถึงที่หมายหรือไม่ และตรวจวัดอุณหภูมิเมื่อลงจากรถ ซึ่งข้อมูลการเดินทางนี้จะถูกส่งต่อให้จังหวัดปลายทาง เพื่อติดตามตัวได้ทันที หากพบผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยง

จากการเก็บข้อมูลและติดตามการเดินทางของผู้โดยสาร ทำให้ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ และติดตามกลุ่มเสี่ยงได้ทันที เช่น กรณีผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากอิหร่าน และติดเชื้อโควิด-19 ได้เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีการตรวจสอบรายชื่อผู้ร่วมเดินทาง แจ้งไปยังสาธารณสุขจังหวัด เพื่อเฝ้าระวัง

นอกจากนี้ บขส.ยังเตรียมเก็บข้อมูลและติดตามการเดินทางของผู้โดยสารรถตู้ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับรถทัวร์โดยสาร เพราะมีข้อมูลจากกรมควบคุมโรค แจ้งเตือนให้รถตู้โดยสารในบางเส้นทาง เป็นสถานที่ที่ต้องเฝ้าระวังและเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง