สั่งการ ทล.-ทช.-ทย.-ทอท.-บขส. ช่วยเหลือประชาชนที่ได้ผลกระทบพายุโซนร้อนวิภา

กรุงเทพ 25 ก.ค.-“สุริยะ” สั่งการ ทล.-ทช.-ทย.-ทอท.-บขส. ช่วยเหลือประชาชนที่ได้ผลกระทบพายุโซนร้อนวิภา เร่งฟื้นสภาพถนน จัดจุดจอดรถในสนามบิน พร้อมแจกอาหารเครื่องดื่มทุกพื้นที่


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากผลกระทบของพายุโซนร้อนวิภา ทำให้หลายพื้นที่โดยเฉพาะโซนภาคเหนือเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งมีผลต่อการสัญจรของประชาชนจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ส่งเจ้าหน้าที่เข้าลงพื้นที่จุดที่เกิดเหตุ เพื่อดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ได้สั่งการให้ กรมทางหลวง (ทล.) จัดเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติหน้าที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย น่าน พะเยา แพร่ และตาก โดยได้รับผลกระทบรวม 27 สายทาง สัญจรผ่านได้ 13 สายทาง ผ่านไม่ได้ 14 สายทาง ซึ่งในจุดดังกล่าวนั้นให้เร่งดำเนินการ เพื่อให้เส้นทางกลับมาใช้สัญจรได้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้ง ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบกับติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำตลอดแนวเส้นทาง พร้อมสั่งการให้ พร้อมสั่งการให้ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) นำเครื่องจักรยานพาหนะ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน พะเยา แพร่ เชียงใหม่ อุบลราชธานี และตาก ซึ่งขณะนี้มีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบรวม 35 สายทาง สัญจรผ่านได้ 13 สายทาง ผ่านไม่ได้ 22 สายทาง โดยให้จัดเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมหน้างานเพื่อให้เส้นทางกลับมาใช้ในการสัญจรได้ปกติโดยเร็วที่สุดเช่นกัน


นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำในเรื่องการบริหารจัดการเส้นทางกรณีผ่านไม่ได้ให้จัดหาทางเลี่ยง หากมีกรณีถนน/สะพานขาด ให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ชั่วคราว รวมถึงจัดอาหารและน้ำดื่มแจกจ่ายประชาชนที่ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับภาคคมนาคมทางอากาศ ได้สั่งการให้ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เข้าดูแลประชาชนในพื้นที่ที่เกิดเหตุทันที โดยมอบหมายให้ ทย. ดำเนินการลอกท่อทางน้ำไหลบริเวณเขต Airside เช็กเครื่องมืออุปกรณ์กู้ภัย และเครื่องสูบน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดน้ำท่วมขัง รวมทั้งจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งข้อมูล และสถานการณ์ให้ผู้ใช้บริการทราบ นอกจากนี้ได้จัดตั้งจุดให้บริการชาร์จโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บริเวณโดยรอบภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร และจัดรถตู้รับ – ส่งบริเวณที่พักโดยรอบสนามบิน ทั้งนี้ ท่าอากาศยานแพร่ได้เปิดพื้นที่ลานจอดรถยนต์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบนำรถเข้ามาจอด เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชน

พร้อมกับมอบหมายให้ ทอท. เปิดพื้นที่ให้จอดรถยนต์ส่วนตัวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 21 – 26 กรกฎาคม 2568 ได้แก่ ลานจอดรถด้านทิศใต้ของอาคารผู้โดยสาร (ลานช้าง) และสนามฟุตบอลตรงข้ามอาคารคลังสินค้า จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือและจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ บริเวณอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ชั้น 1 รวมถึงติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนอัตโนมัติภายในเขตการบิน กำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางภายในรางระบายน้ำภายในเขตการบิน และจัดเตรียมเครื่องสูบระบายน้ำ 7 เครื่อง เพื่อรองรับหากเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่เขตการบิน


นายสุริยะ เผยต่อว่า ทั้งนี้ได้ สั่งการให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เข้าสำรวจเส้นทาง หากพบว่ามีความเสี่ยงให้หยุดบริชั่วคราว โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก ล่าสุด บขส. ได้รายงานว่า ขณะนี้หยุดให้บริการรถโดยสาร 2 เส้นทาง ได้แก่ สายที่ 47 เส้นทางกรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง และสายที่ 910 เส้นทางกรุงเทพฯ – น่าน เป็นการชั่วคราว ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดแพร่มีน้ำท่วมขังสูง รถโดยสารไม่สามารถเข้าใช้สถานีขนส่งฯ จึงให้รถโดยสารรับ – ส่ง ผู้โดยสารและจำหน่ายตั๋วบริเวณหลังสถานีขนส่งฯ หน้าร้านชาบูเคียงคู่ และได้ทำการปิดสถานีเดินรถแพร่ชั่วคราว สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทางสามารถคืนตั๋วโดยสารหรือเลื่อนการเดินทางได้ที่สถานีเดินรถ บขส. ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลและติดตามสถานการณ์อุทกภัยบนโครงข่ายคมนาคมได้ที่ www.mot.go.th ติดต่อขอรับการช่วยเหลือ สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างการเดินทางได้ที่ สายด่วนกระทรวงคมนาคม 1356 ทล. 1586 ทช. 1146 และ ทอท. 1722 . -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]