ผบ.ทบ.สั่งเคอร์ฟิวหน่วยทหาร หลังมีทหารติดโควิด-19

กองทัพบก  25 มี.ค.-ผบ.ทบ. ออกคำสั่ง 7 ข้อ หลัง ทบ. มีทหารติดเชื้อโควิด 5 นาย กลุ่มเสี่ยงกักตัว 238 นาย เตือน ผบ.ร้อย – ผบ.พัน-ผู้การกรม-ผบ.กองพล หากไม่กำกับหรือขัดคำสั่ง โดนปรับย้ายทันที สั่งห้ามนำบุคคลภายนอกเข้าที่พักทหาร ห้ามกลับเข้าที่พักราชการเกิน 21.00น. ห้ามออกนอกพื้นที่ข้ามจังหวัด ยกเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งหรือมีเหตุฉุกเฉิน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ออกคำสั่งการจากผู้บัญชาการทหารบก ถึงกำลังพลกองทัพบก  วันที่ 24 มีนาคม 2563  ระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ซึ่ง ประเทศไทย ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อจำนวน 827 ราย เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ซึ่งกระจายอยู่ใน 47 จังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยในส่วนของกองทัพบก มีกำลังพลที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัส โควิด-19 จำนวน 5 นาย กำลังพลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง และอยู่ระหว่างการกักตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 238 นาย ซึ่งกองทัพบกมีระบบการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวด

กองทัพบกมีหน้าที่ในการเตรียมกำลังพล บุคลากรทางการแพทย์ และยุทโธปกรณ์ทุกประเภทในการสนับสนุนรัฐบาล  ดังนั้น เพื่อให้การควบคุม และปกป้องกำลังพลและครอบครัวของกองทัพบกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสั่งการให้ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยมีผลการบังคับใช้กับกำลังพลในสังกัด ทบ. ทุกนาย ดังนี้


1. กำลังพลที่พักอาศัยในบ้านพักของทางราชการ ให้หลีกเลี่ยงการออกนอกบริเวณโดยไม่จำเป็น ห้ามนำบุคคลภายนอกเข้ามาพักอาศัยโดยเด็ดขาด ยกเว้นได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษร จาก ผบช. (ระดับ ผบ.พัน. ขึ้นไป และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการโรคระบาดของเชื้อไวรัส โควิด – 19 ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด  และห้ามกลับเข้าบนพักของทางราชการเกินเวลา 21.00น. หากมีความ จำเป็นให้ขออนุญาต ผบช. เป็นรายบุคคล 

ส่วนกำลังพลที่มีบ้านพักอาศัยส่วนตัวอยู่นอกหน่วย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการการติดตาม และเฝ้าระวัง ให้แจ้งที่อยู่บ้านพัก และช่องทางการติดต่อสื่อสาร ที่สามารถติดตามตัวได้ ตลอดเวลา  ส่วนหน่วยที่มีการฝึกร่วมกับมิตรประเทศในที่ตั้ง ให้ดำเนินการตามมาตรการนี้เช่นเดียวกัน ยกเว้นการฝึกนอกที่ตั้งให้ปฏิบัติตามตารางการฝึก และคำสั่งของกองทัพบก เรื่องมาตรการควบคุมโรคระบาด

2. การเดินทางออกนอกพื้นที่ กทม. หรือ จังหวัดหนึ่งไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง ให้กระทำได้ในเฉพาะกรณีเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง  หากไม่มีคำสั่ง ให้กำลังพลทุกระดับปฏิบัติหน้าที่ในที่ตั้งปกติ   ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึงวันที่ 22 เมษายน 2563 ยกเว้นการลากิจที่จำเป็น เร่งด่วน ฉุกเฉิน ให้รายงานโดยตรงต่อ ผบช.ของตนเองและ ผบช. จะต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วน และอนุมัติโดยรวดเร็ว


3. ให้ ผบ.หน่วย ปรับปรุงอาคารสถานที่ และสิ่งแวดล้อมภายในหน่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดความแออัดของกำลังพล และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคให้กับกำลังพล และเพื่อกักบริเวณในการระวังผู้ที่กลับจากการลาพัก   4. ให้หน่วยปรับเปลี่ยนระเบียบปฏิบัติ ประจำวันเพื่อป้องกันโรคตามคำแนะนำ และขอให้รักษาวินัยอย่างเคร่งครัด   5. งดการปล่อยลาพักของทหารกองประจำการ  เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค สำหรับการเยี่ยมญาติสามารถปฏิบัติได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรการการระวังป้องกันโรคระบาด  ส่วนทที่ได้ลาพักไปแล้ว เมื่อกลับมา ขอให้หน่วยได้จัดสถานที่ให้อยู่ต่างหาก และกันตัวเองออกจากกำลังพลส่วนใหญ่เป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ หากพบอาการป่วยให้ส่งตรวจรักษาทันที

6. ให้ทุกหน่วยพิจารณาจำกัดทางเข้า – ออกของหน่วย ส่วนกองรักษาการณ์ให้แปรสภาพเป็น จนท.คัดกรอง, เฝ้าระวัง บุคคลเข้าหน่วย โดยจัดหาอุปกรณ์วัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล สำหรับล้างมือตามจุดเข้า – ออก โดยกำลังพลที่ปฏิบัติหน้ที่กองรักษาการณ์ให้ใส่หน้ากากทุกนาย และ 7. ผู้บังคับกองร้อย และผู้บังคับกองพัน จะต้องเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด โดยมีผู้บังคับการกรมและ ผบ.พล หรือเทียบเท่าเป็นผู้กำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง หากไม่กำกับการปฏิบัติฯ หรือได้รับการรายงานฯ ถือว่าขัดคำสั่ง จะมีผลในการปรับย้ายทันที 

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังให้ทางเลือกแก่พลทหารกองประจำการ ที่กำลังจะปลดประจำการสิ้นเดือนเมษายนนี้ สามารถสมัครเป็นทหารกองประจำการต่อ โดยกองทัพบกจะพิจารณาโอกาสให้เป็นนักเรียนนายสิบ  ที่จะสามารถแบ่งเบาภาระของครอบครัว มีรายได้และสวัสดิการที่ชัดเจนแน่นอน และขอขอบคุณผู้ที่ประสงค์จะขอปลดประจำการในเดือนเมษายนนี้  ที่ได้เข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการรับใช้ประเทศชาติ และการช่วยเหลือประชาชนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งว่ามีงานรออยู่ ก่อนที่จะขอปลดประจำการ พร้อมย้ำให้กำลังพลทุกนายติดตามสถานการณ์ และปฏิบัติตามคำสั่งของกองทัพบกที่ได้สั่งการไปแล้วอย่างเคร่งครัด .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]