กทม.เตรียมพร้อมแผนฉุกเฉินรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19

รุงเทพฯ20 มี.ค..-กทม.เตรียมพร้อมแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 เบื้องต้นจัดเตรียมอาคารกลางน้ำโรงพยาบาลบางขุนเทียน สำหรับผู้เข้าเกณฑ์ต้องสงสัย (PUI) ที่รอผลการตรวจยืนยัน จำนวน 8 หลัง หลังละ 4 เตียง รวม 32 เตียง


พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินในส่วนของกทม. เพื่อรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า  สำนักการแพทย์ กทม.ได้จัดทำคู่มือสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ในการดูแลรักษาผู้ป่วย จัดเตรียมเวชภัณฑ์ในการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมถึงให้โรงพยาบาลในสังกัดฝึกซ้อมแผนการรับมือกรณีพบผู้ป่วย โควิด-19 เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ รวมถึงสถานที่ นอกจากนี้ยังได้ซักซ้อมแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินในส่วนของโรงพยาบาลสังกัดกทม. โดยมีศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกทม.(ศูนย์เอราวัณ) เป็นศูนย์กลางประสานการรับ-ส่งผู้ป่วยของโรงพยาบาลในสังกัดกทม. 


ขณะเดียวกัน สำนักการแพทย์กทม. ได้บูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นไปตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งร่วมมือกับโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ สถาบันกลุ่มโรงพยาบาลแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลของ 4 เหล่าทัพ และสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อ “สำรองเตียง” ทั้งห้องความดันลบและห้องแยกโรค เวชภัณฑ์ และชุดป้องกันการติดเชื้อ เพื่อร่วมมือกันทั่วทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ 

ด้าน นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักอนามัย ยังได้จัดทำแนวทางการดูแลรักษา การคัดกรองโรค การเยี่ยมผู้เสี่ยงสูง รวมถึงการจัดเตรียมเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมถึงมีการฝึกซ้อมแผนการรับมือสำหรับกรณีพบผู้ป่วย โควิด-19 ร่วมกับสำนักการแพทย์ กทม. กระทรวงกลาโหม และกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนประสานสำนักการแพทย์ กทม. ในการส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับบริการในโรงพยาบาลสังกัด กทม. อีกด้วย


เตรียมพร้อมรพ.บางขุนเทียนจุดรับ-ส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ตามระบบ เพื่อรับผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค  สำหรับการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลบางขุนเทียน เพื่อเป็นสถานที่ควบคุมโรคเพิ่มเติม ขณะนี้กทม.ได้ตรียมอุปกรณ์ บุคลากรทางการแพทย์ และทบทวนมาตรการตามแผนปฏิบัติงานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้มีความเข้าใจแนวทางการปฏิบัติเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งจัดเตรียมอาคารกลางน้ำสำหรับผู้เข้าเกณฑ์ต้องสงสัย (PUI) ที่รอผลการตรวจยืนยัน จำนวน 8 หลัง หลังละ 4 เตียง รวม 32 เตียง โดยเป็นห้องแยกเดี่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวก หากผลตรวจเป็นลบจะให้กลับบ้าน และทำการกักตัวต่อที่บ้าน แต่หากผลตรวจเป็นบวกจะย้ายผู้ป่วยเข้ารักษาตัว ณ อาคารผู้ป่วยในต่อไป

ในส่วนของการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยและยืนยันผลตรวจว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง กทม.ได้จัดเตรียมพื้นที่บริเวณอาคารผู้ป่วยใน ซึ่งเป็นอาคาร 6 ชั้น เพื่อรองรับผู้ป่วยในกลุ่มนี้ สามารถรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด 294 เตียง แบ่งเป็นห้องเดี่ยว 106 เตียง และห้องรวม 188 เตียง โดยเบื้องต้นจะเปิดใช้อาคารผู้ป่วยในชั้น 2-3 จำนวน 103 เตียงเป็นลำดับแรก โดยขั้นตอนการย้ายผู้ป่วยได้มีการซักซ้อมการปฏิบัติและแบ่งแยกทางเดินของผู้ป่วย แยกจากส่วนของการให้บริการผู้ป่วยนอก(OPD) ชัดเจน

ทั้งนี้โรงพยาบาลบางขุนเทียนจะรับเฉพาะผู้ป่วยที่ผ่านการส่งต่อจากโรงพยาบาลเครือข่ายเท่านั้น ซึ่งหากโรงพยาบาลที่รับตรวจวินิจฉัยว่ามีผลเป็นบวก ทางโรงพยาบาลนั้นๆ จะประสานโรงพยาบาลเครือข่ายเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่เป็นสถานที่ควบคุมโรคตามหลักเกณฑ์ รวมถึงโรงพยาบาลบางขุนเทียนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินหลักพันล้าน โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ หลักพันล้านบาท โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน เร่งสอบสวนเอาผิดเพิ่มฐานฟอกเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวว่า หลักฐานที่ตรวจยึดได้เมื่อวานนี้ ขณะนี้กำลังคัดแยกหลักฐาน เพราะมีข้อมูลเยอะมาก ในเรื่องของพยานหลักฐานที่ได้ตรวจยึดมาจึงต้องคัดแยกเป็นหมวดหมู่และดำเนินการเพื่อตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้หมอบีมีคนใกล้ชิดที่พบ 3 คน และคนใกล้ชิดห่างๆ 1 คน โดยในวันที่เข้าตรวจค้นบ้าน มีคนที่อยู่ด้วยกัน 3 คน อีกคนเป็นเลขาฯ และน่าจะมีปัญหาขัดแย้งกันภายใน จึงมีการออกมาพูดถึงเรื่องความผิดปกติต่างๆ ซึ่งตำรวจได้มีการสอบปากคำคนใกล้ชิดเป็นผู้หญิงไว้เป็นพยาน การบริหารงานของหมอบี ยังไม่ดีเท่าวัดเท่าไหร่ ส่วนเน็ตไอดอลขอไม่ลงลึกในรายละเอียด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า หมอบีเป็นเส้นเลือดใหญ่ กระจายบางส่วนออกไปสู่คนใกล้ชิด เมื่อถามถึงกรณีนักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกว่า เป็นคำบ่นของอดีตพระอลงกต ว่ากลุ่มนักร้องที่มาแสดงดนตรี โกงอดีตพระอลงกตเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ตรง สมมติขายบัตรได้เท่าไหร่ และจะต้องหักค่าใช้จ่ายให้วัดเท่าไหร่ ส่วนกรณีบ้านดำโอนกลับไปเป็นชื่อของอดีตพระอลงกตแล้วก่อนจะมีเรื่อง โดยบ้านหลังนี้มีการโอนผ่านไปยังอดีตพระอลงกตแล้ว แต่เนื่องจากตำรวจอยากได้เส้นทางการเงินที่ชัดเจน และเป็นเส้นทางการเงินที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย