ลอสแอนเจลิส 30 ก.ค.- ผู้เชี่ยวชาญด้านการบังคับใช้กฎหมายแนะนำผู้จัดงานกลางแจ้งให้ทบทวนแผนฉุกเฉินว่าสามารถเพิ่มการรักษาความปลอดภัยได้หรือไม่ หลังเกิดเหตุยิงที่เทศกาลอาหารประจำปีเมืองกิลรอย รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นายตำรวจเมืองกิลรอยกล่าวระหว่างการแถลงข่าววานนี้ว่า ทุกครั้งที่จัดงานขนาดใหญ่มีคนร่วมงานจำนวนมาก ต้องคำนึงถึงแผนฉุกเฉินรับมือเหตุร้ายเสมอ นั่นคือเหตุผลที่ทางการพยายามจัดงานแบบปิดและรัดกุมเพื่อให้สามารถควบคุมคนเข้าออกได้ เทศกาลกระเทียมกิลรอยที่เกิดเหตุยิง มีคนร่วมงานปีละกว่าหนึ่งแสนคนตลอดการจัดงานสามวัน มีรั้วล้อมรอบพื้นที่จัดงาน มีเครื่องตรวจโลหะ เจ้าหน้าที่ตรวจค้นกระเป๋า และตำรวจเดินตรวจตราความเรียบร้อย แต่คนร้ายวัย 19 ปีก็ยังสามารถตัดรั้วสะพายปืนไรเฟิลเข้ามายิงผู้คน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ 3 นายวิสามัญภายในเวลาไม่ถึงนาที แต่ก็มีผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
มาตรการรักษาความปลอดภัยการจัดงานที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำได้แก่ ติดตั้งรั้วล้อมพื้นที่จัดงานหนึ่งถึงสองชั้น ตำรวจเดินตรวจตราทั่วงาน มีโดรนสอดส่องทางอากาศ มีกล้องวงจรปิด มีการเฝ้าระวังผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ตรวจค้นกระเป๋า มีเครื่องตรวจโลหะ จำกัดจุดเข้าออก และมีหน่วยตำรวจสังเกตการณ์ภาพรวมงานจากที่สูง คำแนะนำข้อสุดท้ายมีขึ้นหลังเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงผู้คนจากชั้นที่ 32 ของโรงแรมกาสิโนในลาสเวกัสลงไปยังกลุ่มคนดูคอนเสิร์ตด้านล่างเมื่อปี 2560 มีผู้เสียชีวิตมากถึง 58 คน อย่างไรก็ดี การรักษาความปลอดภัยจะต้องไม่บรรยากาศงานหมดสนุก ผู้จัดงานต้องจัดทำป้ายทางออกที่ชัดเจน ป้ายบอกเส้นทางอพยพ และมีช่องทางให้ผู้ร่วมงานแจ้งเมื่อพบบุคคลหรือสิ่งของต้องสงสัย เช่น แจ้งทางโทรศัพท์หรือแอปพลิเคชัน ขณะเดียวกันคนในสังคมต้องช่วยกันสกัดผู้ที่อาจจะเป็นคนร้ายก่อเหตุด้วยการหาเบาะแสจากโพสต์ต่าง ๆ ที่น่าสงสัยในสื่อสังคมออนไลน์.- สำนักข่าวไทย