ภาคประชาชนเรียกร้องให้รัฐ ประกาศ “โควิด-19” เป็นระยะที่ 3

กทม.19 มี.ค.- เครือข่ายประชาชนรวม 48 หน่วยงาน ร่วมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐประกาศสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นระยะที่ 3 พร้อมดำเนินการประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นเวลา 3 สัปดาห์  เพื่อลดการระบาดของเชื้อโควิด-19


จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยที่ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 212 คน เสียชีวิต 1คน เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค 7,546 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มีนาคม 2563 เวลา 11.00 น.) โดยที่ปรากฎตามข้อเท็จจริงว่าพบการแพร่ระบาดไปทั่วทุกภูมิภาคของไทย ไม่จำกัดอยู่เพียงสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง มีผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศที่ไม่สามารถระบุต้นตอของการติดเชื้อได้อย่างชัดเจน รวมทั้งผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ไม่ได้มารักษาในทันทีตั้งแต่วันแรกที่มีอาการป่วย ทั้งยังไม่มีพฤติกรรมการป้องกันการแพร่เชื้อที่เหมาะสม และมาตรการของรัฐมีความล่าช้า ไม่ทันการณ์ อีกทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์อาจไม่เพียงพอต่อการรับมือวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีความเสี่ยงสูงมากกว่าบุคลากรทางการแพทย์ อาจติดเชื้อ COVID-19 ทั้งจากการตรวจผู้ป่วยโดยตรง หรือขั้นตอนการให้การรักษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องดูดเสมหะในผู้ป่วยหนักอาจแปลงสภาพการ ติดเชื้อจากสภาพเสมหะของเหลวกลายเป็นการติดเชื้อในละอองอากาศในโรงพยาบาลนั้น

เครือข่ายประชาชนเพื่อลดการระบาดของเชื้อ COVID-19 มีความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเรียกร้องมาตรการปิดประเทศ ปิดเมือง ปิดบ้าน และประกาศภาวะฉุกเฉินระยะสั้น เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรค และทำให้บ้านเมืองกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด รวมทั้งหยุดยั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะทอดเวลาออกไปนานขึ้น หากไม่มีมาตรการที่เข้มข้น เพียงพอ โดยมีรายละเอียดดังนี้


1. ประกาศรับรองให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เข้าสู่ระยะที่ 3 เพื่อให้รัฐมีหน้าที่ในการป้องกัน ตรวจคัดกรอง กักบริเวณ และรักษาพยาบาล รวมถึงการจัดงบประมาณเพื่อชดเชยการหยุดงานหรือการปิดกิจการชั่วคราวเพื่อหยุดการแพร่กระจายโรค

2. ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมไม่ให้มีการรวมตัวกันของประชาชนเกินกว่า 5 คน เป็นเวลา 3 สัปดาห์

3. ให้ดำเนินการสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ทุกหน่วยงาน ทุกกรมกอง ให้พร้อมรองรับการดูแลการแพร่ระบาดในระยะที่ 3 ของเชื้อ COVID-19 อย่างเป็นรูปธรรม


4. สิทธิในการป้องกันโรค การคัดกรอง การรักษาพยาบาลให้เป็นสิทธิของประชาชนที่เท่าเทียมกัน โดยหากเป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถได้รับการคัดกรองฟรีทั้งของรัฐและเอกชน ส่วนการรักษาพยาบาลให้เป็นไปตามสิทธิของแต่ละคนที่รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายโดยตรงให้สถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียน

5. ให้กระทรวงพาณิชย์ประกาศมาตรการกำกับค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน โดยให้โรงพยาบาลเอกชนคิดค่ารักษาพยาบาลกรณี COVID-19 เท่ากับการรักษาพยาบาลในกรณีฉุกเฉินสีแดง อันหมายถึงค่ารักษาพยาบาลที่รัฐเป็นผู้กำหนดราคาให้โรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บ โดยรัฐสนับสนุนให้บุคลากรของภาคเอกชนได้สิทธิอื่น ๆ เท่าเทียมโรงพยาบาลของรัฐในการดูแลผู้ป่วย COVID-19

6. ลดการเคลื่อนที่ของประชาชนเพื่อระงับการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 เป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดย

1) ห้ามการเดินทางเข้าและออกจากประเทศเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อกันการแพร่ระบาดของโรค

2) สนับสนุนการประกาศของรัฐบาลที่ได้ปิดสถานศึกษา สถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ สถานออกกำลังกาย รวมทั้งสถานบริการอื่นใดที่เป็นแหล่งชุมนุมของประชาชน ทั้งนี้ยกเว้น ร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านขายยา และบริการส่งของ หรืออาหารหรือสินค้าที่จำเป็น โดยมีมาตรฐานและควบคุมความสะอาดของสินค้าและผู้ส่งสินค้า ส่วนร้านอาหารต้องกำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้เข้มงวดให้มีระยะห่างระหว่างบุคคลที่เข้ามาใช้บริการตามมาตรฐานเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

3) ขอให้ประกาศปิดส่วนราชการ ยกเว้นงานหรือบริการที่มีความจำเป็นสาธารณะและไม่สามารถทำจากที่บ้านได้ เช่น แพทย์/ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตำรวจ และพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสาธารณูปโภคต่าง ๆ และขอความร่วมมือสำนักงาน บริษัท ห้างร้าน ห้างสรรพสินค้า โรงงาน และผู้ผลิตต่าง ๆ ทั้งหมดหยุดกิจการเป็นการชั่วคราว โดยรัฐบาลจัดให้มีมาตรการทางการเงิน งบประมาณ เงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ หรือการลดหย่อนภาษี เพื่อให้ความช่วยเหลือกับบริษัท และผู้ได้รับผลกระทบ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่ลดการจ้างงาน พร้อมจัดสรรงบประมาณของรัฐใหม่ที่ไม่จำเป็น รวมทั้งงบประมาณที่เตรียมการเพื่อจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น มาสนับสนุน

4) ขอความร่วมมือประชาชนงดการเคลื่อนที่ โดยให้อยู่กับบ้านหรือทำงานที่บ้าน ยกเว้นเมื่อมีปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลรักษา หรือออกไปทำธุระที่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้ให้เดินทางน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น

7. มาตรการของรัฐและการจัดสรรงบประมาณทั้งหมด ต้องดำเนินการให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้ต่ำให้สามารถสำรองอาหารในระหว่างการประกาศนี้ รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรรมและโครงการที่เพิ่มการสร้างความมั่นคงทางอาหารของชุมชนทั้งในเขตเมืองและชนบท เช่น การปลูกผักในเมือง และการเกษตรแบบผสมผสาน เป็นต้น

8. สำหรับประชาชนทั่วไป เมื่อกักตนอยู่ที่บ้าน เพื่อช่วยกันรับผิดชอบต่อตนเองและครอบครัว ในการฝ่าวิกฤติของชาติและของโลกร่วมกันครั้งนี้ หากมีผู้ป่วยเกิดขึ้นในบ้าน ขอให้กักบริเวณเป็นห้องต่างหากโดยเฉพาะ ถ้ายังไม่มีอาการรุนแรงใด ๆ เพื่อป้องกันการระบาดเพิ่มเติมสู่บุคคลอื่น เนื่องจากโรคนี้ไม่จำเป็นต้องไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทุกรายเสมอไป เพราะผู้ป่วยสามารถหายป่วยเองได้ ดังนั้นโรงพยาบาลควรให้บริการเฉพาะผู้ป่วยหนักเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงการระบาดในโรงพยาบาล ส่งเสริมบทบาทของชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สนับสนุนครอบครัวใดที่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่กักตัวตนเอง โดยให้หน่วยงานและกลไกของรัฐที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุน

9. รัฐมีหน้าที่จัดสรรหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้เพียงพอสำหรับสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกครัวเรือนตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้เคยแถลงให้คำมั่นต่อประชาชน การจะหยุดโรคระบาดใหญ่ครั้งนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจอย่างเป็นเอกภาพ พร้อมเพรียงของพี่น้องประชาชนด้วยมาตรการแรงในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น จึงจะสามารถหยุดโรคระบาดนี้ได้ เครือข่ายประชาชนเพื่อลดการระบาดของเชื้อ COVID-19 ขอให้กำลังใจและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการสนับสนุนแนวทางดังกล่าว เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ที่เลวร้ายในขณะนี้ให้เข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็วที่สุด

สำหรับหน่วยงาน องค์กร และบุคคลที่สนับสนุน ประกอบด้วย 

1. กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ

2. ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน

3. คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน

4. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

5. เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก

6. เครือข่ายชุมชนผู้เดือดร้อนจากการสร้างอาคารผิดกฎหมาย

7. เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน

8. เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน

9. เครือข่ายปกป้องเด็กและเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงทางสังคม

10. เครือข่ายผู้บริโภคภาคเหนือ

11. เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต

12. เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่

13. เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์

14. เครือข่ายศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน เขต 1 เชียงใหม่

15. เครือข่ายสื่อสร้างสรรค์เพื่อการขับเคลื่อนสังคม

16. เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคใต้

17. มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน

18. มูลนิธิเข้าถึงเอดส์

19. มูลนิธิคนตัวดี

20. มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว

21. มูลนิธิชีววิถี

22. มูลนิธิบูรณะนิเวศ

23. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

24. มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา

25. มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน

26. มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์

27. มูลนิธิสุขภาพไทย

28. มูลนิธิส่งเสริมสื่อเด็กและเยาวชน

29. มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล

30. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.จันทบุรี

31. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.จันทบุรี (ประเด็นเกษตร)

32. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.ฉะเชิงเทรา

33. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.ฉะเชิงเทรา (ประเด็นเกษตรกร)

34. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.ฉะเชิงเทรา (ประเด็นคนพิการ)

35. ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค จ.ตราด (ประเด็นผู้ติดเชื้อ)

36. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.สมุทรปราการ (ประเด็นเกษตร)

37. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.สมุทรปราการ (ประเด็นเด็กและเยาวชน)

38. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.สระแก้ว

39. สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา

40. สถาบันแพทย์บูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต

41. สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย

42. สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย

43. สมาคมคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคภาคตะวันออก

44. สมาคมผู้บริโภคร้อยเอ็ด

45. สมาคมผู้บริโภคสงขลา

46. สมาคมผู้บริโภคสุราษฎร์ธานี

47. สมาคมส่งเสริมภาคประชาสังคม

48. ภญ.ศิริพร. จิตรประสิทธิศิริ  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชายและเร่งทำคดีเพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมานาน 4 เดือนคดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แจ้งกับตนว่า คดีนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินคดี ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน […]

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าผ่านแดน

29 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้า ผ่านเข้า-ออก 3 ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจำกัดเวลา-จำนวนคัน เริ่มวันนี้ (29 มิ.ย.) และให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 1. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 โดยให้หน่วยงานความมั่นคง ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมชายแดน และที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ให้มีการผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าไทยที่ตกค้าง และรถขนส่งสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก หรือใบขนสินค้าผ่านแดน ที่ได้ส่งข้อมูลเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ก่อนวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ข้ามไปยังกัมพูชาและกลับเข้ามายังราชอาณาจักรไทย 2. เพื่อเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้การปฏิบัติการควบคุมสอดคล้องกับการดำเนินการตามข้อ 1 กองกำลังบูรพา จึงขอประสานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้2.1 ให้ผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ได้วันละไม่เกิน […]

นายกฯ นำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว

เพื่อไทย 29 มิ.ย. – โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยนายกฯ นำชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว รอหารือที่ประชุมพรรค 3 ก.ค.นี้ หลังมี สส.อีสาน ทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญ ทราบว่าทางทำเนียบรัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขอให้รอขั้นตอนต่อไปว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อใด ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า สส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยทวงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังผิดหวังจากโผ ครม. นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ทุกพรรคมีแรงกระเพื่อมหมด ซึ่งแน่นอนว่ามีคนอยากเข้าไปทำงานเป็นเรื่องปกติ โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการพูดคุยถึงขั้นตอนหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องการเลือกรองประธานสภาฯ คนใหม่ ได้รับแจ้งว่าน่าจะก่อนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นตัวแทน […]