ภาคประชาชนเรียกร้องให้รัฐ ประกาศ “โควิด-19” เป็นระยะที่ 3

กทม.19 มี.ค.- เครือข่ายประชาชนรวม 48 หน่วยงาน ร่วมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐประกาศสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นระยะที่ 3 พร้อมดำเนินการประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นเวลา 3 สัปดาห์  เพื่อลดการระบาดของเชื้อโควิด-19


จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยที่ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 212 คน เสียชีวิต 1คน เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค 7,546 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มีนาคม 2563 เวลา 11.00 น.) โดยที่ปรากฎตามข้อเท็จจริงว่าพบการแพร่ระบาดไปทั่วทุกภูมิภาคของไทย ไม่จำกัดอยู่เพียงสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง มีผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศที่ไม่สามารถระบุต้นตอของการติดเชื้อได้อย่างชัดเจน รวมทั้งผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ไม่ได้มารักษาในทันทีตั้งแต่วันแรกที่มีอาการป่วย ทั้งยังไม่มีพฤติกรรมการป้องกันการแพร่เชื้อที่เหมาะสม และมาตรการของรัฐมีความล่าช้า ไม่ทันการณ์ อีกทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์อาจไม่เพียงพอต่อการรับมือวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีความเสี่ยงสูงมากกว่าบุคลากรทางการแพทย์ อาจติดเชื้อ COVID-19 ทั้งจากการตรวจผู้ป่วยโดยตรง หรือขั้นตอนการให้การรักษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องดูดเสมหะในผู้ป่วยหนักอาจแปลงสภาพการ ติดเชื้อจากสภาพเสมหะของเหลวกลายเป็นการติดเชื้อในละอองอากาศในโรงพยาบาลนั้น

เครือข่ายประชาชนเพื่อลดการระบาดของเชื้อ COVID-19 มีความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเรียกร้องมาตรการปิดประเทศ ปิดเมือง ปิดบ้าน และประกาศภาวะฉุกเฉินระยะสั้น เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรค และทำให้บ้านเมืองกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด รวมทั้งหยุดยั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะทอดเวลาออกไปนานขึ้น หากไม่มีมาตรการที่เข้มข้น เพียงพอ โดยมีรายละเอียดดังนี้


1. ประกาศรับรองให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เข้าสู่ระยะที่ 3 เพื่อให้รัฐมีหน้าที่ในการป้องกัน ตรวจคัดกรอง กักบริเวณ และรักษาพยาบาล รวมถึงการจัดงบประมาณเพื่อชดเชยการหยุดงานหรือการปิดกิจการชั่วคราวเพื่อหยุดการแพร่กระจายโรค

2. ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมไม่ให้มีการรวมตัวกันของประชาชนเกินกว่า 5 คน เป็นเวลา 3 สัปดาห์

3. ให้ดำเนินการสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ทุกหน่วยงาน ทุกกรมกอง ให้พร้อมรองรับการดูแลการแพร่ระบาดในระยะที่ 3 ของเชื้อ COVID-19 อย่างเป็นรูปธรรม


4. สิทธิในการป้องกันโรค การคัดกรอง การรักษาพยาบาลให้เป็นสิทธิของประชาชนที่เท่าเทียมกัน โดยหากเป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถได้รับการคัดกรองฟรีทั้งของรัฐและเอกชน ส่วนการรักษาพยาบาลให้เป็นไปตามสิทธิของแต่ละคนที่รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายโดยตรงให้สถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียน

5. ให้กระทรวงพาณิชย์ประกาศมาตรการกำกับค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน โดยให้โรงพยาบาลเอกชนคิดค่ารักษาพยาบาลกรณี COVID-19 เท่ากับการรักษาพยาบาลในกรณีฉุกเฉินสีแดง อันหมายถึงค่ารักษาพยาบาลที่รัฐเป็นผู้กำหนดราคาให้โรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บ โดยรัฐสนับสนุนให้บุคลากรของภาคเอกชนได้สิทธิอื่น ๆ เท่าเทียมโรงพยาบาลของรัฐในการดูแลผู้ป่วย COVID-19

6. ลดการเคลื่อนที่ของประชาชนเพื่อระงับการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 เป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดย

1) ห้ามการเดินทางเข้าและออกจากประเทศเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อกันการแพร่ระบาดของโรค

2) สนับสนุนการประกาศของรัฐบาลที่ได้ปิดสถานศึกษา สถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ สถานออกกำลังกาย รวมทั้งสถานบริการอื่นใดที่เป็นแหล่งชุมนุมของประชาชน ทั้งนี้ยกเว้น ร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านขายยา และบริการส่งของ หรืออาหารหรือสินค้าที่จำเป็น โดยมีมาตรฐานและควบคุมความสะอาดของสินค้าและผู้ส่งสินค้า ส่วนร้านอาหารต้องกำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้เข้มงวดให้มีระยะห่างระหว่างบุคคลที่เข้ามาใช้บริการตามมาตรฐานเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

3) ขอให้ประกาศปิดส่วนราชการ ยกเว้นงานหรือบริการที่มีความจำเป็นสาธารณะและไม่สามารถทำจากที่บ้านได้ เช่น แพทย์/ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตำรวจ และพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสาธารณูปโภคต่าง ๆ และขอความร่วมมือสำนักงาน บริษัท ห้างร้าน ห้างสรรพสินค้า โรงงาน และผู้ผลิตต่าง ๆ ทั้งหมดหยุดกิจการเป็นการชั่วคราว โดยรัฐบาลจัดให้มีมาตรการทางการเงิน งบประมาณ เงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ หรือการลดหย่อนภาษี เพื่อให้ความช่วยเหลือกับบริษัท และผู้ได้รับผลกระทบ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่ลดการจ้างงาน พร้อมจัดสรรงบประมาณของรัฐใหม่ที่ไม่จำเป็น รวมทั้งงบประมาณที่เตรียมการเพื่อจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น มาสนับสนุน

4) ขอความร่วมมือประชาชนงดการเคลื่อนที่ โดยให้อยู่กับบ้านหรือทำงานที่บ้าน ยกเว้นเมื่อมีปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลรักษา หรือออกไปทำธุระที่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้ให้เดินทางน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น

7. มาตรการของรัฐและการจัดสรรงบประมาณทั้งหมด ต้องดำเนินการให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้ต่ำให้สามารถสำรองอาหารในระหว่างการประกาศนี้ รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรรมและโครงการที่เพิ่มการสร้างความมั่นคงทางอาหารของชุมชนทั้งในเขตเมืองและชนบท เช่น การปลูกผักในเมือง และการเกษตรแบบผสมผสาน เป็นต้น

8. สำหรับประชาชนทั่วไป เมื่อกักตนอยู่ที่บ้าน เพื่อช่วยกันรับผิดชอบต่อตนเองและครอบครัว ในการฝ่าวิกฤติของชาติและของโลกร่วมกันครั้งนี้ หากมีผู้ป่วยเกิดขึ้นในบ้าน ขอให้กักบริเวณเป็นห้องต่างหากโดยเฉพาะ ถ้ายังไม่มีอาการรุนแรงใด ๆ เพื่อป้องกันการระบาดเพิ่มเติมสู่บุคคลอื่น เนื่องจากโรคนี้ไม่จำเป็นต้องไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทุกรายเสมอไป เพราะผู้ป่วยสามารถหายป่วยเองได้ ดังนั้นโรงพยาบาลควรให้บริการเฉพาะผู้ป่วยหนักเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงการระบาดในโรงพยาบาล ส่งเสริมบทบาทของชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สนับสนุนครอบครัวใดที่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่กักตัวตนเอง โดยให้หน่วยงานและกลไกของรัฐที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุน

9. รัฐมีหน้าที่จัดสรรหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้เพียงพอสำหรับสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกครัวเรือนตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้เคยแถลงให้คำมั่นต่อประชาชน การจะหยุดโรคระบาดใหญ่ครั้งนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจอย่างเป็นเอกภาพ พร้อมเพรียงของพี่น้องประชาชนด้วยมาตรการแรงในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น จึงจะสามารถหยุดโรคระบาดนี้ได้ เครือข่ายประชาชนเพื่อลดการระบาดของเชื้อ COVID-19 ขอให้กำลังใจและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการสนับสนุนแนวทางดังกล่าว เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ที่เลวร้ายในขณะนี้ให้เข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็วที่สุด

สำหรับหน่วยงาน องค์กร และบุคคลที่สนับสนุน ประกอบด้วย 

1. กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ

2. ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน

3. คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน

4. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

5. เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก

6. เครือข่ายชุมชนผู้เดือดร้อนจากการสร้างอาคารผิดกฎหมาย

7. เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน

8. เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน

9. เครือข่ายปกป้องเด็กและเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงทางสังคม

10. เครือข่ายผู้บริโภคภาคเหนือ

11. เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต

12. เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่

13. เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์

14. เครือข่ายศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน เขต 1 เชียงใหม่

15. เครือข่ายสื่อสร้างสรรค์เพื่อการขับเคลื่อนสังคม

16. เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคใต้

17. มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน

18. มูลนิธิเข้าถึงเอดส์

19. มูลนิธิคนตัวดี

20. มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว

21. มูลนิธิชีววิถี

22. มูลนิธิบูรณะนิเวศ

23. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

24. มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา

25. มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน

26. มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์

27. มูลนิธิสุขภาพไทย

28. มูลนิธิส่งเสริมสื่อเด็กและเยาวชน

29. มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล

30. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.จันทบุรี

31. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.จันทบุรี (ประเด็นเกษตร)

32. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.ฉะเชิงเทรา

33. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.ฉะเชิงเทรา (ประเด็นเกษตรกร)

34. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.ฉะเชิงเทรา (ประเด็นคนพิการ)

35. ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค จ.ตราด (ประเด็นผู้ติดเชื้อ)

36. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.สมุทรปราการ (ประเด็นเกษตร)

37. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.สมุทรปราการ (ประเด็นเด็กและเยาวชน)

38. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.สระแก้ว

39. สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา

40. สถาบันแพทย์บูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต

41. สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย

42. สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย

43. สมาคมคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคภาคตะวันออก

44. สมาคมผู้บริโภคร้อยเอ็ด

45. สมาคมผู้บริโภคสงขลา

46. สมาคมผู้บริโภคสุราษฎร์ธานี

47. สมาคมส่งเสริมภาคประชาสังคม

48. ภญ.ศิริพร. จิตรประสิทธิศิริ  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]