คุก 3 เดือน สาวแสบแจ้งเท็จกักตัวโควิด-19 ขอเลื่อนคดี

กทม.17 มี.ค.- ศาลสั่งคุก 3 เดือน ไม่รอลงอาญา สาวหลอกศาลติดกักตัวโควิด-19  ยื่นคำร้องเท็จขอเลื่อนคดีปลอมเอกสารเพื่อไปใช้สมัครบัตรเครดิตคนอื่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ ศาลไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีมีการกล่าวหา น.ส.ปารณีย์ (สงวนนามสกุล) พนักงานบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง คดีปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ซึ่ง น.ส.ปารณีย์ มาศาลอาญา และติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีที่ศาลนัดพร้อมเพื่อประชุมคดีสอบคำให้การจำเลย ตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานโดยระบุในคำร้องว่า เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง และเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ได้ร่วมประชุมกับพนักงานชาวสิงคโปร์ซึ่งติดโควิด- 19 จึงต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน 


เจ้าหน้าที่ศาลรับเรื่อง จึงรีบรายงานนายชูชัย วิริยะสุนทรวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และนายชนุดม ปิติฤกษ์ เลขานุการศาลอาญาทราบ จากนั้นได้ประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอคำปรึกษาและมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ 3 คน และ รปภ. 2 คน ที่สัมผัสกับ น.ส.ปารณีย์ กลับไปกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน พร้อมทั้งทำความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสดังกล่าวที่ศาลอาญา 

ศาลอาญาได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังบริษัทที่ น.ส.ปารณีย์ อ้างว่าเป็นพนักงาน บริษัทดังกล่าวทำหนังสือชี้แจงมีใจความว่า “น.ส.ปารณีย์ เป็นพนักงานตำเเหน่ง Customer Experience Specialist  ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมกับพนักงานชาวสิงคโปร์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เดินทางมาสำนักงานใหญ่ของบริษัทช่วงวันที่ 5 – 6 มี.ค. และ น.ส.ปารณีย์ ไม่ได้เดินทางไปยังอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทในช่วงเวลาที่ผู้ติดเชื้ออยู่ในประเทศไทย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่อีกอาคารหนึ่ง และทางบริษัทไม่ได้มีคำสั่งให้ น.ส.ปารณีย์ กักตัว 14 วัน”

ต่อมาเมื่อถึงวันนัดดังกล่าวในวันที่ 16 มี.ค.น.ส.ปารณีย์ ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องและไม่สามารถติดต่อได้ พฤติการณ์มีเหตุควรสงสัยว่า น.ส.ปารณีย์ หลบหนี ศาลจึงให้ออกหมายจับ น.ส.ปารณีย์ และมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานตำรวจศาลเป็นผู้จัดการตามหมายจับของศาล โดยเจ้าพนักงานตำรวจศาลสามารถติดตามจับกุม น.ส.ปารณีย์ ได้ในวันนี้(17 มี.ค.)


ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ น.ส.ปารณีย์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จเพื่อหวังผลในการดำเนินคดีของตน โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมนั้น นอกจากจะเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาล่าช้าแล้ว ยังก่อให้เกิดความหวาดกลัวและตื่นตระหนกต่อประชาชนผู้มาติดต่อราชการศาล จึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล อันเป็นการกระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ศาลไต่สวนแล้วพบว่า น.ส.ปารณีย์ กระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่ง มาตรา 31 (1) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 พิพากษาให้จำคุก 3 เดือน ไม่รอลงอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว ไม่มีญาติมายื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ปารณีย์ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวไปขังยังทัณฑสถานหญิงกลาง ขณะที่คดีของ น.ส.ปารณีย์ ถูกอัยการยื่นฟ้องนั้น เป็นคดีปลอมเอกสารเพื่อไปใช้สมัครบัตรเครดิตคนอื่น ศาลได้นัดพร้อมคู่ความอีกครั้งในวันที่ 27 เม.ย. นี้ เวลา 09.00 น.

นายชนุดม ปิติฤกษ์ เลขานุการศาลอาญา กล่าวว่า คดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่าง ประชาชนคู่ความที่จะมาติดต่อศาลได้ตระหนักว่าไม่ควรใช้สถานการณ์ช่วงนี้มาเป็นเหตุในการที่จะก่อให้เกิดการตื่นตระหนก เพื่อหวังผลทางคดี และว่านายชูชัย วิริยะสุนทรวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ประกาศศาลอาญา เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019, COVID-19) ด้วย ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แพร่ระบาดในหลายประเทศเป็นเหตุให้มีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตในอัตราเพิ่มขึ้น ทำให้ประเทศต่างๆ ต้องมีมาตรการดูแลสุขภาพของประชาชนพร้อมกับการควบคุมการแพร่กระจายของโรค สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อให้การดำเนินการติดตาม ป้องกัน เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ศาลอาญา จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน ดังนี้

1.ขอความร่วมมือให้คู่ความหรือประชาชน ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม, พนักงานราชการศาลยุติธรรม และลูกจ้างในศาลอาญา เข้า – ออกบริเวณด้านหน้าศาลอาญาเพียงจุดเดียว เพื่อเฝ้าระวังและคัดกรอง โดยขอสงวนสิทธิ์หากตรวจพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูง ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ห้ามเข้าบริเวณอาคารศาลอาญา

2.กรณีที่คู่ความหรือประชาชน ที่ต้องมาติดต่อราชการศาล อยู่ระหว่างติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรืออยู่ในภาวะเสี่ยง หรือโดนกักตัว 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังดูอาการจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ท่านสามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ศาลอาญา ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-5412284-90โดยไม่ต้องเดินทางมาศาล หรือหากมาศาลต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือผู้อำนวยการฯ ทันที หากข้อความที่แจ้งเป็นเท็จเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) หรือไม่แจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าว อาจมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

3.ขอให้ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม , พนักงานราชการศาลยุติธรรม และลูกจ้างในศาลอาญา ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค หรือหน่วยงานทางราชการอย่างใกล้ชิดเป็นสำคัญ และขอให้ปฏิบัติตนตามมาตรการของกรมควบคุมโรค เช่น ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ , สวมหน้ากากอนามัย , ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยทางเดินหายใจ , ผู้ป่วยไอจามหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้สวมหน้ากากอนามัย ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น

4.หากปรากฏว่า มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดที่ให้ข่าว หรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทางสื่อออนไลน์หรือด้วยประการใดๆ ซึ่งบิดเบือนจากข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุให้เกิดการตื่นตระหนก ตกใจกลัวต่อประชาชน สร้างความเสียหายหรือส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของศาลอาญา บุคคลหรือกลุ่มบุคคลนั้นอาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย