BIG STORY : รัฐบาลเตรียมหลายมาตรการรับมือโควิด-19 แม้อยู่ระยะ 2

กทม. 12 มี.ค. – แม้ขณะนี้การระบาดของเชื้อโควิด-19 ของไทยจะยังอยู่ในระยะที่ 2 แต่หลายหน่วยงานก็เตรียมพร้อมมาตรการหลายอย่าง เช่น พัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อติดตามทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เพื่อยื้อเวลาระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้อยู่ในระยะ 2 ให้นานที่สุด ให้ระบบสาธารณสุขและประชาชนได้ปรับตัว หากในอนาคตเกิดการระบาดระยะที่ 3

นี่เป็นแอปพลิเคชันเอโอที แอร์พอร์ต ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะนำมาใช้ติดตามนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามาในไทย วันนี้เป็นวันแรก โดยชาวต่างชาติจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวในแอปนี้ ก่อนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะตรวจสอบรายละเอียดว่ากรอกข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ แอปนี้นอกจากจะมีขึ้นเพื่อใช้สื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 แล้ว จะยังถูกนำมาใช้ติดตามโรคกรณีที่พบว่านักท่องเที่ยวติดเชื้อด้วย

ส่วนนี่เป็นแอปพลิเคชันไซต์คิก ฟอร์ ไทยไฟท์ โควิด ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลพัฒนาขึ้น แอปนี้จะถูกนำมาใช้ติดตามคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ระหว่างกักตัวที่ภูมิลำเนาของตัวเอง และคอยตรวจสอบพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันว่ามีการกักตัวเองอยู่บ้านในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ โดยแอปนี้จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ผอ.ใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระบุว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ควบคุม เฝ้าระวัง และป้องกันโรคโควิด-19 นอกจากจะช่วยให้การทำงานของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความตระหนกของคนในสังคมได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และยังมีบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางเข้าประเทศต่อเนื่อง

ระยะการระบาดของโควิด-19 แบ่งได้เป็น 3 ระดับ ระยะที่ 1 ผู้ป่วยที่ติดเชื้อในประเทศล้วนเป็นผู้ป่วยที่เดินทางจากประเทศต้นตอการระบาดครั้งแรก ระยะที่ 2 มีการระบาดจากคนสู่คน แต่สามารถสืบต้นตอได้ว่าติดเชื้อจากใคร และระยะที่ 3 เริ่มระบาดเป็นวงกว้าง ไม่ทราบว่าใครติดจากใคร หรือแหล่งใดชัดเจน

อธิบดีกรมควบคุมโรคยืนยันว่าการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในไทยขณะนี้ยังอยู่ในระยะที่ 2 แม้จะพบผู้ติดเชื้อเรื่อยๆ และกระจายไปในหลายพื้นที่ แต่ก็ยังสามารถหาต้นตอของการติดเชื้อได้ ทั้งนี้ จะพยายามยื้อเวลาระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้อยู่ในระยะ 2 ให้นานที่สุด เพื่อให้ระบบสาธารณสุขและประชาชนได้ปรับตัวและพร้อมรับมือ หากไทยต้องเข้าสู่การระบาดระยะที่ 3  

มีตัวอย่างความสำเร็จในการรับมือการระบาดของเชื้อโควิด-19 ของจีน ซึ่งเป็นประเทศต้นตอการระบาดครั้งแรก ที่ใช้มาตรการควบคุมขั้นเด็ดขาดหลายอย่าง เช่น การปิดเมือง การจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพฤติกรรม การให้รางวัลผู้แจ้งเหตุ และการใช้แอปพลิเคชันติดตามแจ้งความเคลื่อนไหว เพราะการค้นพบผู้ติดเชื้อ การกักตัว และการติดตามคนใกล้ชิด ที่หากทำได้รวดเร็วก็ส่งผลถึงโอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายเป็นวงกว้างนั้นน้อยลงไปด้วย.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย