MEA ต้อนรับคณะผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ดูงานจัดระเบียบสายสื่อสาร ถ.เพชรบุรี

กทม 11 มี.ค.-MEA ต้อนรับคณะผู้ตรวจราชการจากกระทรวงมหาดไทย เพื่อติดตามการดำเนินงานจัดระเบียบสายสื่อสาร “โครงการ กฟน. กฟภ. รวมใจส่งสุขปีใหม่ 2563 จัดระเบียบสายสื่อสารทั่วไทย” ณ สำนักงานเพลินจิต






วันที่ 11 มีนาคม 2563 นายประสงค์ คุ้มประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงาน MEA ให้การต้อนรับ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และคณะฯ เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานจัดระเบียบสายสื่อสาร “โครงการ กฟน. กฟภ. รวมใจส่งสุขปีใหม่ 2563 จัดระเบียบสายสื่อสารทั่วไทย” ซึ่งเป็นโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทย และการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยรับฟังการนำเสนอสรุปข้อมูล ณ การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานเพลินจิต  พร้อมลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานจัดระเบียบสายสื่อสารรูปแบบใหม่และรื้อถอนสายสื่อสารไม่ใช้งาน (สายตาย) ถนนเพชรบุรี บริเวณปากซอย 29 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ


ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA รับผิดชอบจัดระเบียบสายสื่อสารในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ครอบคลุมทั้ง 18 ที่ทำการเขต ทั้งสิ้น 318 เส้นทาง รวมระยะทางกว่า 2,200 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาสายสื่อสารรกรุงรัง และห้อยต่ำ อาจส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ MEA  ซึ่งส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ จากปัญหาดังกล่าว MEA เร่งดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารมีความเป็นระเบียบอย่างต่อเนื่อง โดยจากการสรุปข้อมูลการดำเนินการล่าสุด พบว่า MEA ร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนสามารถดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารได้ตามแผนงานเพื่อให้แล้วเสร็จภายใน มิถุนายน 2563 ตามนโยบายของรัฐบาล เมื่อการดำเนินการเสร็จสิ้นผู้ประกอบการแต่ละรายสามารถสอดส่องดูแลไม่ให้มีผู้ลักลอบมาพาดสายโดยไม่ได้รับอนุญาตได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยให้ภูมิทัศน์สวยงาม ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง มีความปลอดภัยแก่ประชาชนในระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นปัญหาสายสื่อสารรกรุงรัง สายสื่อสารหลุดห้อยไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กสทช. โทร. 1200 หรือ LINE@ : @nbtc1200

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร 

Energy for city life, Energize smart living

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย