กทม.11 มี.ค.- สตม.ยืนยันมีตำรวจในสังกัดทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ 1 นาย ติดเชื้อโควิด-19 เดินหน้าตรวจเข้มคัดกรองเข้าประเทศ
ตามที่สื่อเสนอข่าว กรณีโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครได้รับผู้ป่วยชายติดเชื้อโควิด- 19 โดยชายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นั้น พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะรองโฆษก สตม. เปิดเผยว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่าย ตม.ขาเข้า ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ สาเหตุพบอาการป่วย เนื่องจาก บก.ตม.2 มีมาตรการให้ จนท.ตม.ทุกนายตรวจวัดไข้ก่อนและหลังปฏิบัติหน้าที่ โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค.63 เวลา 15.00 น. จนท.ตำรวจดังกล่าว ได้รับการตรวจก่อนออกเวร พบว่ามีอาการครั่นเนื้อ ครั่นตัว และไข้ขึ้นสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงได้ดำเนินการตามมาตรการนำส่ง รพ.ลาดกระบัง เพื่อตรวจอาการ ซึ่งแพทย์เห็นว่ามีแนวโน้มเสี่ยงจึงนำส่ง รพ.กลาง เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนอาการ PUI โดยละเอียด
ต่อมาวันที่ 9 มี.ค 63 ผลแล็บพบว่าเป็นบวก ซึ่งอาการขณะนี้ มีเพียงไข้แต่ไม่มีอาการติดเชื้อที่ปอดแต่อย่างใด เนื่องจากถึงมือแพทย์ทันทีที่สงสัยพบอาการ นอกจากนั้น ได้ติดตามตรวจสอบผู้ร่วมพักอาศัย พบว่าพักกับรูมเมท ซึ่งตรวจแล้วไม่พบว่ามีอาการติดเชื้อแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ในส่วนของ จนท.ซึ่งปฏิบัติงานในเคาท์เตอร์เดียวกัน ก็ได้ดำเนินการตามมาตรการของ บก.ตม.2 โดยนำตัวเข้ารับการตรวจกับแพทย์ ไม่มีอาการติดเชื้อแต่อย่างใด แต่ให้เก็บตัวที่บ้าน 14 วัน การดำเนินการตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อ Covid-19 ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ได้มีการกำหนดมาตรการให้ใช้หน้ากากอนามัย ถุงมือ เพื่อป้องกันการสัมผัส รวมถึงการเช็ดน้ำยาฆ่าเชื้อที่อุปกรณ์ เครื่องมือ ช่องตรวจ ทุก 10 นาที รวมถึงการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนและหลังทำงาน หากพบมีอาการผิดปกติให้รีบนำส่งแพทย์ ซึ่ง จนท.รายดังกล่าว ก็เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด เห็นได้ว่า มาตรการดังกล่าว ช่วยลดความเสี่ยงแก่ตัว จนท.ตม.ผู้ปฏิบัติ ซึ่งต้องรองรับการตรวจผู้โดยสารจากทั่วโลกกว่าวันละ 60,000 คนตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
วันนี้ ที่ประชุมเตรียมการรับและคัดกรองผู้โดยสารเดินทางจากสาธารณรัฐเกาหลีในวันที่ 11 มี.ค.63 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ทดม. ชั้น 4 โดยมีผดม.เป็นประธานการประชุม ร่วมกับหน่วยงานราชการ (ตม. ศก. ตร.ท่องเที่ยว ทอ.) และผู้แทนสายการบิน ทั้งนี้ได้รับการประสานจากผู้แทนกระทรวงกลาโหมว่า รัฐบาลต้องการให้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารจาก 4ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน อิหร่าน และอิตาลี ดังนี้ 1. กรณีผู้โดยสารมีอุณหภูมิมากกว่าหรือเท่ากับ 37.5 องศาเซลเซียส จะถูกกักไว้ที่ตู้คอนเทนเนอร์ และด่านควบคุมโรคฯ ถือว่ามีความเสี่ยงสูง(สีแดง)จะส่งตัวไปตรวจโดยละเอียดที่โรงพยาบาล 2. ผู้โดยสารต่างชาติทั้งหมดที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 37.5 องศาเซลเซียส และผ่านการคัดกรองจาก จนท.ด่านควบคุมโรค ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ(สีเขียว) สายการบินจะทำไปส่งที่ bus gate inter ผ่านกระบวนการเข้าเมืองตามปกติ 3 .ผู้โดยสารที่เป็นคนไทยทั้งหมดจาก 4 ประเทศดังกล่าวที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ต้องผ่านการตรวจ ใบ ต.8 (ที่อยู่ตามที่อาศัยอยู่จริง) จากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคฯ และ จนท.ตม.จะเก็บข้อมูลผู้โดยสารชาวไทย(เฉพาะ ผดส.ที่มาจากเกาหลี ที่กระทำผิดกฎหมาย/ overstay)สายการบินจะนำ passport ไปผ่านกระบวนการเข้าเมือง และนำกระเป๋าสัมภาระมาให้ผู้โดยสารที่ pier6 ศขส.ทดม.ประสาน ขบ.(นำรถบัสเข้า ช่องทางลานจอด 4 ) มารับผู้โดยสารที่ผ่านการตรวจสอบและจัดเก็บข้อมูลแล้วนำส่งยังพื้นที่ที่กระทรวงกลาโหมกำหนด(State Quarantine).-สำนักข่าวไทย