คมนาคม มั่นใจ! ไอเคโอ ตรวจสนามบินไทย ไร้ธงแดง

10 มี.ค. – ศักดิ์สยามมั่นใจ!! ไอเคโอมาตรวจสนามบินสุวรรณภูมิภูเก็ตไทยไม่โดนธงแดงแน่ รอลุ้นผลประกาศอย่างเป็นทางการเดือน 21 มิ..นี้


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้มารายงานผลการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือน (Universal Security Audit Programme Continuous) หรือ USAP ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ ที่ได้เข้ามาตรวจสนามบินสุวรณภูมิ และ สนามบินภูเก็ต ตั้งแต่ 11-21..63 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจในครั้งนี้พบข้อบกพร่องที่ต้องมีการแก้ไข จำนวน 44 ข้อ จากที่ต้องแก้ไข 497 ข้อ ซึ่งถือว่าพบข้อบกพร่องน้อยกว่า การตรวจเมื่อปี 2560 ที่พบข้อบกพร่อง 49 ข้อ จากคำถามทั้งหมด 480 ข้อ และมีระดับประสิทธิผลของการนำมาตรฐานไอเคโอมาบังคับใช้ที่ 55.78% ซึ่งทางกพท.มั่นใจว่าจะผ่านเกณฑ์มาตรฐานแน่นอน ซึ่งตามขั้นตอนหลังจากนี้ ไอเคโอจะประกาศผลในวันที่ 21เม.. และจะให้ทางประเทศไทยมีการแก้ไขใน 60 วันก่อนที่จะประกาศอย่างเป็นทางการภายในเดือน มิ..63 นี้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยจะไม่ติดธงแดงในเรื่องนี้


นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า การตรวจสอบครั้งนี้ของไอเคโอ จะไม่เกี่ยวข้องกับการประเมินการแก้ไขปัญหากรณีที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) ลดระดับมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศไทยจากระดับ 1 (Category 1) เป็นระดับ 2 (Category 2) แต่เชื่อว่าการประเมินคงไม่แตกต่างกัน และประเทศไทยก็น่าจะสามารถผ่านประเมินไปได้


ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. กล่าวว่า การประเมินยูแซฟของไอเคโอนั้น ต้องได้ระดับประสิทธิผลฯ ที่ 50% ขึ้นไป ซึ่งยังไม่มีประเทศใดสามารถทำได้เต็ม 100% เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 70% ซึ่งผลการตรวจครั้งนี้น่าจะได้คะแนนเฉลี่ยที่ 60% และการการตรวจครั้งนี้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการตรวจที่ผ่านๆมาคือ การตรวจเรื่องความมั่นคงทางไซเบอร์ ว่ามีการแฮกข้อมูลหรือไม่อย่างไร และ เรื่องครัวการบิน ที่ปัจจุบันสนามบินจะเน้นเรื่องการตรวจผู้โดยสารเป็นหลัก แต่ในสวนของครัวการบินกลับพบว่าสามารถแทรกสิ่งแปลกปลอมเข้าไปได้ รวมถึงการส่งไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ เป็นต้น

ส่วนการแก้ไขปัญหาเอฟเอเอยังเหลืออีกประมาณ 20 ข้อ ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการแก้ไข คาดว่าภายในเดือน ..นี้ จะแก้ปัญหาแล้วเสร็จ และในเดือน มิ..นี้ จะเชิญให้เอฟเอเอเข้ามาตรวจสอบเพื่อเลื่อนระดับจากระดับ 2 สู่ระดับ 1 ซึ่งหลังจากเชิญ เอฟเอเอ จะเข้ามาตรวจได้ไม่เกินสิ้นปี 63 ก่อนที่จะใช้เวลาตรวจใน 60 วัน และคาดว่า เอฟเอเอจะประกาศผลออกมาอย่างเป็นทางการได้ภายในเดือน มี.. 64 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยจะสามารถเลื่อนจากระดับ 2 สู่ระดับ 1 ซึ่งจะทำให้สายการบินของไทยสามารถทำการบินเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย