มธ. เปิดตัว หน้ากากผ้าสะท้อนละอองน้ำ เพื่อบุคลากรทางการแพทย์

มธ.รังสิต 10 มี.ค.- มธ. เปิดตัว หน้ากากผ้าสะท้อนละอองน้ำ เพื่อบุคลากรทางการแพทย์  ทดลองใช้ที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์ฯ แก้ปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย ตั้งเป้าผลิต 1,000 ชิ้น ให้บุคลากรในสังกัด ไม่ได้มุ่งหวังทำเพื่อการพาณิชย์


รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) เป็นประธานแถลงข่าว “เปิดตัว หน้ากากผ้าคุณสมบัติพิเศษสะท้อนละอองน้ำ เพื่อบุคลากรทางการแพทย์”  


โดยงานนี้เกิดขึ้นโดยสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 19 (COVID-19) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดตั้ง คณะทำงานป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19(COVID-19) ขึ้น ภายใต้ความร่วมมือของประชาคมธรรมศาสตร์ และหน่วยงานภายนอก เช่น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ศ.พญ.อรพรรณ  โพชนุกูล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา และ ประธานคณะทำงานป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 19 (COVID-19) กล่าวว่า แม้สถานการณ์การแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทย จะอยู่ในเฟส 2 แต่ปัจจุบันการบริหารวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นในโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะ หน้ากากอนามัย กลับขาดแคลนจำนวนมากจากความต้องการใช้หน้ากากอนามัยทั่วประเทศที่สูงกว่า 30-40 ล้านชิ้นต่อเดือน ซึ่งสวนทางกับกำลังการผลิตของภาคโรงงานรวม 10 โรง ที่สามารถผลิตได้ประมาณ 30 ล้านชิ้นต่อเดือน ซึ่งไนส่วนของโรงพยาบาลธรามศาสตร์ฯ ช่วงที่ผ่านมายอมรับว่าหน้ากากอนามัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์อยู่ในระดับที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่ตอนนี้ยอมรับว่าสถานการณ์ดีขึ้นในระดับหนึ่ง เพราะมีประชาชนได้บริจาค หน้ากากอนามัยมาเป็นจำนวนมาก แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ต้องประเมินภายใต้วิกฤติการแพร่ระบาด จำนวนที่มีแม้จะเพียงพอในระยะนี้แต่ถ้าหากยังไม่มีการจัดการที่ดีจากหน่วยงานภาครัฐก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนได้ขึ้นอีก

ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายหรือติดเชื้อ และลดปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-Use)ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และภาคประชาชน ที่หลายหน่วยงานแนะนำให้เลือกใช้หน้ากากผ้าทดแทนหน้ากากอนามัยแต่คุณสมบัติของหน้ากากผ้าทั่วไปจะสามารถดูดซับน้ำได้ดี ซึ่งรวมถึงสารคัดหลั่งด้วย จึงมีโอกาสที่อาจจะติดเชื้อได้ง่ายไม่ว่าจะเป็น COVID-19 หรือว่าไข้หวัดปกติทั่วไป   คณะทำงานจึงได้ศึกษาวิจัย คุณสมบัติผ้าที่เหมาะสม พัฒนาเป็น “หน้ากากผ้ากันน้ำ THAMMASK เพื่อใช้ในทางการแพทย์” ผลิตจากวัสดุผ้าสะท้อนน้ำ ไม่ดูดซับความชื้น และช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อ 

น.ส.ธนิกา หุตะกมล อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีวัสดุและสิ่งทอ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. (SCI-TU) กล่าวเสริมว่า “หน้ากากผ้ากันน้ำ THAMMASK เพื่อใช้ในทางการแพทย์” นั้น เป็นการประยุกต์ใช้โครงสร้างผ้าที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ และเหมาะใช้เป็นวัสดุทำหน้ากากผ้าป้องกันสารคัดหลั่งเบื้องต้น ผ้าที่ใช้ชื่อว่า “Cotton-Silk” หรือผ้าฝ้ายผสมโพลิเอสเตอร์  นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิต ยังใช้เทคโนโลยีสะท้อนน้ำ ซึ่งมีอนุภาคเป็นระดับไมครอนสามารถแทรกเข้าไปเนื้อผ้า ไม่ให้โมเลกุลของน้ำแทรกเข้าไปในเนื้อผ้า มีความปลอดภัยเมื่อสัมผัสผิวหนังโดยตรง ลักษณะที่ทำในเวลานี้จะเป็นการนำเนื้อผ้าสองชิ้นมาประกบติดกันและมีผ้าฝ้ายรองด้านหลังบริเวณจุดที่ต้องสัมผัสกับใบหน้าอีกหนึ่งชั้นเพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว  และในอนาคตจะมีการทดลองด้วยการนำฟิวเตอร์กรองฝุ่นมาใส่ตรงกลางอีกชั้น เพื่อใช้สำหรับเป็นหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 อีกด้วย

ซึ่งทางคณะทำงานฯ กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน และความคงทนของเส้นใย ว่ายังคงประสิทธิภาพเดิมหรือไม่ เมื่อนำไปซักด้วยเครื่องซักผ้ามาตรฐานทั่วไป ซึ่งตามที่บริษัทผู้ผลิตระบุ บอกว่าสามารถซักซ้ำได้ 20-30 ครั้ง แต่ยังไม่อยากยืนยัน ต้องรอการทดสอบว่าจำนวนครั้งที่ผู้ผลิตระบุต้องซักด้วยวิธีการใดและส่งผลต่อประสิทธิภาพการกันน้ำของผ้าขนาดไหน เบื้องต้นขณะนี้จากการทดสอบการซักทำความสะอาดซ้ำทำได้อย่างน้อย 5 ครั้ง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะทราบผลทดสอบว่าสามารถนำไปซักทำความสะอาดเพื่อนำมาใช้ซ้ำได้จำนวนเท่าไหร่

สำหรับต้นทุนการผลิตหน้ากากทางเลือกหนึ่งชิ้นจะอยู่ที่ 25 – 30 บาท หากเทียบกับการนำไปซักและนำกลับมาใช้ซ้ำ จำนวนต่ำสุดที่ 5 ครั้ง ก็ถือว่าราคาถูกมาก สำหรับการนำไปใช้เบื้องต้นจะนำไปทดลองใช้ที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์ฯ ใช้สำหรับการตรวจทั่วไปหรือใช้กับเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ประจำตามจุดคัดกรองต่างๆไม่สามารถใช้ภายในห้องผ่าตัดได้ โดยในขั้นนี้ตั้งเป้าจะผลิตออกมาทดลองใช้ 1,000 ชิ้นเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ในสังกัด ไม่ได้มุ่งหวังทำเพื่อการพาณิชย์

และในเร็วๆนี้ก็จะประสานติดต่อไปกับหน่วยงานภาครัฐที่มีความสนใจนำไปวิเคราะห์ต่อยอดในการผลิตเพื่อนำไปแจกจ่ายหรือนำไปจำหน่ายให้กับประชาชนอีกครั้ง  ส่วนประชาชนที่สนใจอยากจะนำไปทดลองใช้ตอนนี้มีบริษัทในประเทศไทยที่ผลิตเนื้อผ้าตัวนี้ออกมาจำหน่ายสามารถติดต่อไปได้โดยตรงที่บริษัทเนื่องจากผ้าในลักษณะนี้ยังไม่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด

หรือมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองกิจการนักศึกษา โทรศัพท์ 02-564-2924 , 02-564-4408 และสำหรับผู้ที่สนใจวิธีการตัดเย็บหน้ากากผ้า เพื่อทดแทนกับหน้ากากอนามัยในช่วงที่ขาดแคลน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ScienceThammasat/posts/2200214250082114  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ

ทำเนียบ 1 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ เร่งพิจารณารับรองร่างถ้อยแถลงภาษีสหรัฐ 19% ให้มีผลอย่างเป็นทางการ พร้อมหารือหลักเกณฑ์งบฯ ฉุกเฉินเยียวยาเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่รัฐ-ประชาชน เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ส.ค.) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญประชุม ครม. นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องของอัตราภาษีตอบโต้จากสหรัฐอเมริกา โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ที่ ห้อง 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และการประชุมทางสื่ออิเลคทรอนิกส์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เมื่อเช้านี้ประเทศไทยได้รับแจ้งจาก สหรัฐฯว่า สินค้าจากไทยที่ส่งไปจำหน่ายในสหรัฐฯจะถูกเรียกเก็บภาษี 19% ซึ่งเท่ากับหลายๆประเทศในภูมิภาค ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะพอทำให้เรายังคงแข่งขันได้ โดยในกระบวนการเจรจานี้ มีขั้นตอนสำคัญคือรัฐบาลไทยต้อง ออกถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ ซึ่งคณะทำงาน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง […]

คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ ถึงอุบลฯ ลุยพิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดน

ทำเนียบ 1 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเวลา 09.25 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนทางการทูต ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่แนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา การเดินทางในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและ ความโปร่งใสของรัฐบาลไทย ที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้คณะทูตต่างประเทศและสื่อมวลชนได้เห็น ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือน คณะทูตต่างประเทศที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา อุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ […]

สหรัฐประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19%

1 ส.ค. – ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% และมาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% มาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ได้ทำงานอย่างเต็มที่และรอบคอบในทุกมิติ มุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนของไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด โดยทุกประเด็นการเจรจาล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้ ตนหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่ารัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และหวังว่าเราจะก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความร่วมมือและพลังใจของพวกเราทุกคน.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยไทยฝนน้อย-เหนือตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสานตอนบน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 […]