กรุงเทพฯ 8 มี.ค. – โฆษกศูนย์โควิด-19 เผย กรมการค้าภายในส่งทหารคุมโรงงานผลิตส่งตัวเลขการผลิตให้ศูนย์หน้ากากอนามัยกระทรวงพาณิชย์ จัดสรร 7 แสนชิ้นให้บุคลากรทางการแพทย์ ย้ำผลิตได้ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน วอนโซเชียลอย่าสร้างข่าวปลอม
นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) ประจำทำเนียบรัฐบาล ชี้แจง เรื่องหน้ากากอนามัยขาดแคลน ย้ำว่าประเทศไทย มี 11 โรงงานผลิตหน้ากากได้วันละ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน 36 ล้านชิ้นต่อเดือน คนไทยมีประมาณ 67 ล้านคน เดิมที่ไม่ขาดแคลนเพราะใช้เฉพาะผู้ป่วย คนกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น และยังมีการนำเข้าอีก 20 ล้านชิ้นต่อเดือน แต่ปัจจุบันจีนผู้ส่งออกไม่ส่งออกแล้ว เหลือที่นำเข้าได้ตอนนี้เพียง 1 ล้านชิ้นต่อเดือนเท่านั้น ทั้งนี้ล่าสุดกรมการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปคุมโรงงานผลิตแล้วนำส่งตัวเลขการผลิตให้ศูนย์หน้ากากอนามัยที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข บริหารจัดสรรปันส่วน โดย 700,000 ชิ้นแรก จัดให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกแห่ง ทั้งรัฐ เอกชน และผู้มีหน้าที่ให้เพียงพอ
นายถนอม กล่าวอีกว่า ส่วนที่ 2 จำนวน 500,000 ชิ้น จัดให้ บุคลากร องค์กรที่ต้องใช้ควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้พอ เช่น สายการบิน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกระจายไปภูมิภาค ผ่านร้านธงฟ้า รถธงฟ้า 111 คัน เป็นต้น และถ้าส่วนแรกไม่พอก็ให้นำส่วนของ 500,000 ชิ้น ไปเติมให้ส่วนแรกให้เพียงพอก่อน ทั้งนี้กรมการค้าภายในยอมรับว่า จัดสรรอย่างไรก็ไม่พอต่อความต้องการใช้ เพราะของมีจำกัด นำเข้าก็ไม่ได้
นายถนอม กล่าวว่า ทางแก้อีกทางหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ป่วย คือ รัฐให้งบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน225 ล้านบาท ไปทำหน้ากากผ้าใช้เองในแต่ละพื้นที่ ทั้ง 7,774 อปท. ทั่วประเทศ จำนวน 50 ล้านชิ้น ให้ผู้ผลิตอุตสาหกรรมสิ่งทอฯ ทำหน้ากากผ้า แจกอีก 30 ล้านชิ้น ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ทำแจกใช้เองอีก 1.3 ล้านชิ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และปัญหาขาดแคลนไปก่อน
โฆษกศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ยังกล่าวว่า สำหรับค่าตรวจโควิด-19 ที่หลายคนมีคำถามว่าแพงหรือไม่การตรวจมี 2 วิธี คือ 1.ถ้ามาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือมีประวัติสัมผัสกลุ่มเสี่ยง และมี ไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย ไม่ต้องไปหาหมอ โทร.1422 โรงพยาบาลจะส่งรถพร้อมมนุษย์ชุดอวกาศมารับส่งโรงพยาบาลฟรีถึงบ้าน ไม่ต้องเสียเงิน และ2. ถ้าไม่มีประวัติมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือไม่ได้สัมผัสกลุ่มเสี่ยง แม้มีไข้ หมอไม่แนะนำให้ตรวจ เพราะจะเสียเงินฟรี แต่ถ้าจะตรวจให้สบายใจ ค่าตรวจ รพ.รัฐ,เอกชน ค่าบริการ ตั้งแต่ 3,000-10,000 บาท แล้วแต่โรงพยาบาล
นายถนอม กล่าวว่าปัจจุบันข้อมูลข่าวสารโดยเฉพาะในสื่อโซเชียลมีเดีย มีทั้งข่าวจริง ข่าวปลอม ข่าวเก่า ซึ่งสร้างความสับสน สงสัย และปั่นป่วนแก่คนในสังคม ทั้งนี้ที่ผ่านมา รัฐบาล โดยสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิด สายด่วน 1111 ศูนย์บริการภาครัฐเพื่อประชาชน อีกทั้ง กรมประชาสัมพันธ์ โดยเพจข่าวจริงประเทศไทย รวมถึง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม Anti Fake News Center ได้ทำหน้าที่ เป็นที่พึ่ง รับฟังเรื่องราว ตอบข้อสงสัย ให้ความกระจ่าง แก่ประชาชนในทุกสถานการณ์มาโดยตลอด แต่ด้วยสภาวะเหตุการณ์ที่ปัญหา โควิด- 19 เป็นปัญหาเร่งด่วน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย