เชียงใหม่ 5 มี.ค.- คณะแพทยศาสตร์
มช.-รพ.มหาราชนครเชียงใหม่แจงการใช้งานหน้ากากอนามัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์
ล่าสุดในคลังเหลืออยู่จำกัด และหาซื้อยาก
ต้องปรับแผนการใช้ระหว่างรอสินค้าสั่งซื้อไว้จัดส่งมา
ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รศ.นพ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผศ.นพ. ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ศรีพัฒน์ และ ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ แถลงการใช้งานหน้ากากอนามัยของบุคลากรทางการแพทย์ว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาคณะแพทยศาสตร์ รวมทั้งศูนย์ศรีพัฒน์ และศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมการสั่งซื้อหน้ากากอนามัยไว้กว่า 1,000,000 ชิ้น และขณะนี้ในคลังพัสดุมีหน้ากากอนามัยเหลือเพียง 18,000 ชิ้นเท่านั้นจากการใช้งานตามปกติ ซึ่งทั้ง 3 ศูนย์ การใช้งานหน้ากากอนามัยเฉลี่ยวันละประมาณ 4,000 ชิ้น หากใช้ในปริมาณปกติจะมีหน้ากากอนามัยเหลือใช้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น แต่เนื่องจากสถานการณ์เฝ้าระวังโควิด–19 ประกอบกับการขาดแคลนหน้ากากอนามัยของสถานพยาบาลทั่วประเทศ จึงวางแผนปรับปริมาณการใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติให้เหลือเพียงวันละไม่เกิน 1,000 ชิ้น โดยลดการใช้หน้ากากอนามัยในจุดที่ความเสี่ยงน้อย เพื่อเพิ่มจำนวนการใช้ในจุดที่มีความเสี่ยงสูงแทน เช่น URI Clinic ที่ตรวจรักษาคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคไข้หวัด และ PUI Clinic ที่คัดกรองและรักษาผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค เพื่อยืดระยะเวลาเก็บหน้ากากอนามัยไว้ใช้ป้องกันบุคลากรในการปฏิบัติหน้าที่ในจุดที่มีความเสี่ยงสูงเพิ่มขึ้นอีก 15 – 30 วัน ระหว่างรอหน้ากากอนามัยที่สั่งซื้อทยอยส่งมายังโรงพยาบาล สำหรับหน้ากากอนามัยแบบผ้าจะนำไปใช้กับบุคลาการที่มีความเสี่ยงน้อย หรือกับผู้ป่วยที่ไม่มีการติดเชื้อ
ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยืนยันว่า ได้สร้างระบบการคัดกรอง และมาตรการที่ชัดเจนในการดูแลป้องกันบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยตามมาตรฐานองค์กรระดับชาติ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของบุคลากรและผู้ป่วยทุกราย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยต้องสงสัยรายใหม่.-สำนักข่าวไทย