ผีน้อยมาแล้ว 180 คน มีไข้ 19 คน

สมุทรปราการ 4 มี.ค. – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มั่นใจมาตรการคัดกรองผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยง เข้มข้นเพียงพอ ขณะที่ ตม. แจงผีน้อยมาแล้ว 180 คน พร้อมยืนยัน ขั้นตอนการเดินทางกลับของผีน้อยจากเกาหลีถึงไทยทราบตัวตนมีใครบ้างชัดเจน


นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 และกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ดังนั้น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ จัดตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก ทั้งนี้ ในส่วนของการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้า มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนและเครื่องวัดอุณหภูมิหน้าผากและทางหู จำนวน 5 จุด ที่บริเวณจุดตัดอาคารเทียบเครื่องบิน D จำนวน 2 จุด และบริเวณทางเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองจำนวน 3 จุด และในส่วนของการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาออก มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนและเครื่องวัดอุณหภูมิหน้าผากและทางหู จำนวน 4 จุด ได้แก่ จุดตรวจค้นร่างกายและสัมภาระผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โซน 3,จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 3 ช่องทาง Fast track (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row T) จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 2 ช่องทาง Fast track (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row W) และจุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 1 (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row A)

สำหรับการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ทสภ. ได้มีการจัดหลุมจอดไว้รองรับเที่ยวบินที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไว้ที่หลุมจอดประชิดอาคาร C, E, F, และ G เป็นการเฉพาะอีกด้วย และจะมีการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิเมื่อผู้โดยสารเดินทางมาถึงสนามบิน หากมีไข้เกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือ หายใจลำบาก มีการเดินทางไปยัง หรือ มาจาก หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ถ้าผู้โดยสารเข้าลักษณะทั้ง 3 อย่างข้างต้นและแพทย์ที่ด่านควบคุมโรคมีความเห็นให้ดำเนินการเข้าพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ช่องทางเฉพาะ เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาล ดำเนินการวินิจฉัยตรวจหาเชื้อทางห้องแล็บ


“มั่นใจว่ามาตรการคัดกรองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีเข้มข้นเพียงพอในการคัดกรองผู้โดยสาร รวมถึงกรณีแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ จะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองตามที่กล่าวไปแล้วนี้” นายกิตติพงศ์ กล่าว

ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากการระบาดของไวรัสโควิด- 19 และส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของผู้เดินทางในขณะนี้ยอมรับว่าจำนวนผู้เดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดลงประมาณ 50 %โดยในวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งปกติสุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 180,000 คนแต่ล่าสุดเหลือผู้โดยสารเดินทางเพียง 98,000 คนเท่านั้น


พ.ต.ท.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึงข้อมูลแรงงานไทยที่ได้รับการนิรโทษกรรมจากเกาหลีใต้และมีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ (ผีน้อย) จากการติดตามข้อมูลของตม. การเดินทางของแรงงานเหล่านี้ ผ่านด่านที่มีเที่ยวบินจากเกาหลีใต้ คือ สุวรรณภูมิ,ดอนเมือง,ภูเก็ต  ขณะนี้ได้เดินทางเข้าประเทศแล้วจำนวน 180 คนจากที่มีการยื่นความประสงค์ไว้กว่า 5พัน คน โดยในจำนวน 180 คนนี้พบว่ามีอาการพี่ต้องเฝ้าระวังหรือมีไข้จำนวน 19 ราย  และเจ้าหน้าที่แพทย์แนะนำเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังแล้วอย่างไรก็ตามจากข้อมูลล่าสุดยังไม่พบว่าในจำนวน 19 รายนั้นเป็นการมีไข้จากการติดเชื้อ COVID -19

ส่วนความกังวลว่าแรงงานไทยที่เดินทางกลับนี้จะมีการปรับบนกับผู้โดยสารทั่วไปจนไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง และติดตามเฝ้าระวังอาการนั้น พ.ต.ท.เชิงรณ กล่าว ขั้นตอนในการส่งกลับแรงงานเหล่านี้ จะมีการขึ้นทะเบียนรายชื่อ ที่ตม.ของเกาหลีใต้ ใช้เป็นลิสท์ไว้  หลังจากนั้นเมื่อมีการเดินทางขึ้นเครื่องก็จะมีการทราบถึงที่นั่งบนเครื่องชัดเจน และเจ้าหน้าที่ลูกเรือจะเป็นคนเก็บพาสปอร์ตไว้ หลังจากนั้นเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยก็จะมีการจัดส่งเอกสารเดอนทางให้ ตม.ของไทยรับทราบต่อ เพื่อผ่านขั้นตอนในการคัดกรองของไทยที่ด่านฯ  โดยหากรายใดมีไข้ ที่ต้องเฝ้าระวังก็จะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการตรวจรักษา  ส่วนรายใดไม่มีไข้ก็จะเข้าสู่กระบวนการส่งกลับภูมิลำเนา และให้เจ้าหน้าที่แพทย์ในพื้นที่เฝ้าติดตามอาการ และดูแลการกักตัว 14 วันที่บ้าน 

ทั้งนี้ขอย้ำว่าขณะนี้  กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 หากผู้ที่ต้องเฝ้าระวังรายใดและอยู่ในเกณฑ์ต้องกักตัว 14 วันแต่ไม่ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวก็จะมีโทษตามที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดไว้ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ