ผีน้อยมาแล้ว 180 คน มีไข้ 19 คน

สมุทรปราการ 4 มี.ค. – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มั่นใจมาตรการคัดกรองผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยง เข้มข้นเพียงพอ ขณะที่ ตม. แจงผีน้อยมาแล้ว 180 คน พร้อมยืนยัน ขั้นตอนการเดินทางกลับของผีน้อยจากเกาหลีถึงไทยทราบตัวตนมีใครบ้างชัดเจน


นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 และกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ดังนั้น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ จัดตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก ทั้งนี้ ในส่วนของการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้า มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนและเครื่องวัดอุณหภูมิหน้าผากและทางหู จำนวน 5 จุด ที่บริเวณจุดตัดอาคารเทียบเครื่องบิน D จำนวน 2 จุด และบริเวณทางเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองจำนวน 3 จุด และในส่วนของการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาออก มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนและเครื่องวัดอุณหภูมิหน้าผากและทางหู จำนวน 4 จุด ได้แก่ จุดตรวจค้นร่างกายและสัมภาระผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โซน 3,จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 3 ช่องทาง Fast track (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row T) จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 2 ช่องทาง Fast track (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row W) และจุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 1 (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row A)

สำหรับการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ทสภ. ได้มีการจัดหลุมจอดไว้รองรับเที่ยวบินที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไว้ที่หลุมจอดประชิดอาคาร C, E, F, และ G เป็นการเฉพาะอีกด้วย และจะมีการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิเมื่อผู้โดยสารเดินทางมาถึงสนามบิน หากมีไข้เกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือ หายใจลำบาก มีการเดินทางไปยัง หรือ มาจาก หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ถ้าผู้โดยสารเข้าลักษณะทั้ง 3 อย่างข้างต้นและแพทย์ที่ด่านควบคุมโรคมีความเห็นให้ดำเนินการเข้าพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ช่องทางเฉพาะ เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาล ดำเนินการวินิจฉัยตรวจหาเชื้อทางห้องแล็บ


“มั่นใจว่ามาตรการคัดกรองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีเข้มข้นเพียงพอในการคัดกรองผู้โดยสาร รวมถึงกรณีแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ จะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองตามที่กล่าวไปแล้วนี้” นายกิตติพงศ์ กล่าว

ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากการระบาดของไวรัสโควิด- 19 และส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของผู้เดินทางในขณะนี้ยอมรับว่าจำนวนผู้เดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดลงประมาณ 50 %โดยในวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งปกติสุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 180,000 คนแต่ล่าสุดเหลือผู้โดยสารเดินทางเพียง 98,000 คนเท่านั้น


พ.ต.ท.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึงข้อมูลแรงงานไทยที่ได้รับการนิรโทษกรรมจากเกาหลีใต้และมีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ (ผีน้อย) จากการติดตามข้อมูลของตม. การเดินทางของแรงงานเหล่านี้ ผ่านด่านที่มีเที่ยวบินจากเกาหลีใต้ คือ สุวรรณภูมิ,ดอนเมือง,ภูเก็ต  ขณะนี้ได้เดินทางเข้าประเทศแล้วจำนวน 180 คนจากที่มีการยื่นความประสงค์ไว้กว่า 5พัน คน โดยในจำนวน 180 คนนี้พบว่ามีอาการพี่ต้องเฝ้าระวังหรือมีไข้จำนวน 19 ราย  และเจ้าหน้าที่แพทย์แนะนำเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังแล้วอย่างไรก็ตามจากข้อมูลล่าสุดยังไม่พบว่าในจำนวน 19 รายนั้นเป็นการมีไข้จากการติดเชื้อ COVID -19

ส่วนความกังวลว่าแรงงานไทยที่เดินทางกลับนี้จะมีการปรับบนกับผู้โดยสารทั่วไปจนไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง และติดตามเฝ้าระวังอาการนั้น พ.ต.ท.เชิงรณ กล่าว ขั้นตอนในการส่งกลับแรงงานเหล่านี้ จะมีการขึ้นทะเบียนรายชื่อ ที่ตม.ของเกาหลีใต้ ใช้เป็นลิสท์ไว้  หลังจากนั้นเมื่อมีการเดินทางขึ้นเครื่องก็จะมีการทราบถึงที่นั่งบนเครื่องชัดเจน และเจ้าหน้าที่ลูกเรือจะเป็นคนเก็บพาสปอร์ตไว้ หลังจากนั้นเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยก็จะมีการจัดส่งเอกสารเดอนทางให้ ตม.ของไทยรับทราบต่อ เพื่อผ่านขั้นตอนในการคัดกรองของไทยที่ด่านฯ  โดยหากรายใดมีไข้ ที่ต้องเฝ้าระวังก็จะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการตรวจรักษา  ส่วนรายใดไม่มีไข้ก็จะเข้าสู่กระบวนการส่งกลับภูมิลำเนา และให้เจ้าหน้าที่แพทย์ในพื้นที่เฝ้าติดตามอาการ และดูแลการกักตัว 14 วันที่บ้าน 

ทั้งนี้ขอย้ำว่าขณะนี้  กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 หากผู้ที่ต้องเฝ้าระวังรายใดและอยู่ในเกณฑ์ต้องกักตัว 14 วันแต่ไม่ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวก็จะมีโทษตามที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดไว้ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย

เขมรครึ่งร้อยป่วนบ้านหนองจานอีก

สระแก้ว 7 ก.ย. – ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย เกณฑ์เด็ก-ผู้หญิง เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย โดยเกณฑ์เด็กและผู้หญิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้หลักเขต 46 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณใกล้แนวชายแดน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ส่วนบริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ผู้กำกับ สภ.โคกสูง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ช่วงเวลา 11.00 น. มีกลุ่มมวลชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 20 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลั่นนั่งนายกฯ ควบ มท.1 เร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย.- “อนุทิน” ลั่นไม่ติดหนี้บุญคุณใคร นอกจากประชาชน โพล่งนั่งนายกฯ ควบ มท.1 ประกาศเร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน ยันไม่มีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. ทุกอย่างกางบนโต๊ะโปร่งใส ไม่ยัดเยียดปรุงแต่ง หรือกลั่นแกล้งใคร เหมือนที่เคยโดน สั่งล่วงหน้า ครม.หนู เวลาน้อยแค่ 4 เดือน ต้องไม่เหนื่อย-ไม่ป่วย-ไม่ลา-ทำงานไม่มีวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า นับเป็นพระมหากรุณากรุณาธิคุณ แก่ตัวกระผมอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ผมยืนยันด้วยความตระหนักดีว่าการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อาจมีข้อจำกัดหลายประการหลายด้าน ในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีของผมทุกคน จะมุ่งมั่นทุ่มเททำงานด้วยความไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกำลังกาย กำลังสมอง เพื่อให้ประเทศไทยของเราได้หลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ โดยเร็วที่สุด ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความมั่นใจโดยผ่านความไว้วางใจและการลงคะแนนเสียงของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชนที่ได้ให้การสนับสนุนตนให้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า และได้เสียสละให้ประเทศไทยมีทางออกและหลังจากลงคะแนนเสียงเรียบร้อยแล้ว ได้กลับไปอยู่ในเจตนารมณ์เดิมของพรรคประชาชนคือการเป็นฝ่ายตรวจสอบ ตนได้ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรรกล้าธรรม […]