เพื่อไทยสัมมนาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ 2020

เพื่อไทย 3 มี.ค.- เพื่อไทยสัมมนาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ 2020  ชี้ เผด็จการทหารเป็นอุปสรรคการค้าการลงทุน ระบุ อีก 5 ปี เศรษฐกิจถึงจะดีขึ้น เว้นแต่เปลี่ยนเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย – เชื้อโควิด-19 หมดไป


พรรคเพื่อไทยจัดงานสัมมนาเปิดตัวโครงการระดมความคิดเพื่อพัฒนาชุดนโยบายสาธารณะ หัวข้อ “ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ 2020”  ที่พรรคเพื่อไทย มี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค  และนายวิโรจน์ อาลี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมงานสัมมนา

นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาเรื่อง “ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจไทย 2020”  ตอนหนึ่งว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กระบวนการยุติธรรมประสบภาวะวิกฤตอย่างใหญ่หลวง ทำให้ศรัทธาความเชื่อมั่นลดน้อยลง ถือว่าเป็นมหาวิกฤตการณ์ ขณะที่ ปัญหาด้านเศรษฐกิจในไทยเวลานี้ เหมือนเอาคนตาบอดมาทำงานด้วยกัน ทำงานไม่ได้ หากตนเป็นนายกรัฐมนตรี คงจะปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยออก 


นายวีรพงษ์ กล่าวว่า การที่จีนกลายเป็นผู้ผลิต ส่งผลให้ไทยได้รับผลประโยชน์ส่งสินค้าไปให้สหรัฐและยุโรป แต่โชคร้ายที่ไทยเกิดการรัฐประหาร ทำให้ความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก และเมื่อมีโรคระบาดที่จีน ไทยก็ทำบางอย่างที่สะเทือนใจชาวจีน โดยไม่ตระหนักว่า จีนเป็นตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวไทย 

นายวีรพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ห่วงคือ ความไม่รู้เรื่องของรัฐบาล จากคำพูดที่เห็นในวาระต่างๆ และเป็นห่วงความรังเกียจรัฐบาลทหารในประชาคมโลก ที่น่าจะรุนแรงยิ่งขึ้น ในยามที่เศรษฐกิจของโลกชะลอตัวลง เพราะประเทศต่างๆ จะหาทางปกป้องตัวเอง ด้วยการใช้วิธีการกีดกันทางการค้า เช่น สหรัฐอเมริกา  

“ปีที่แล้ว ถือเป็นการเผาหลอก ต้นปีนี้ เผาจริง และปลายปีเป็นการเก็บกระดูก ยืนยัน ไม่ใช่เพราะไม่ชอบรัฐบาล แต่พูดตามข้อเท็จจริงของตัวเลข” นายวีรพงษ์ กล่าว และว่า การแจกเงินด้วยการใช้เงินสดก็ไม่ทั่วถึง รัฐควรประกันรายได้ให้คนชนชั้นล่างและลดภาษีให้กับคนชนชั้นกลาง ขณะที่ โครงการชิม ช้อป ใช้ ก็ไม่มีประโยชน์ เอาไว้หลอกป่าหี่เท่านั้น 


นายวีรพงษ์ กล่าวว่า วัฎจักรเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ จะดีขึ้นใน 10 ปี ซึ่งรัฐบาลอยู่มาแล้ว 5 ปี ก็เหลืออีก 5 ปีเศรษฐกิจจึงจะดีขึ้น นอกจากนี้ ระบอบการปกครองเผด็จการทหาร เป็นอุปสรรคในการเจรจาทางการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ ดังนั้น หากจะเปลี่ยนเงื่อนไข 5 ปีดังกล่าว ก็คือ เชื้อโควิด-19 หมดไป และรัฐบาลเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย  .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.-พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.26 น. เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว รายละเอียดจากแถลงอย่างเป็นทางการและยังระบุข้อความว่า “นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง” นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความให้การให้สัมภาษณ์ของนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ได้ยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ขอบคุณพรรคประชาชน ย้ำพร้อมรับทุกเงื่อนไข

รัฐสภา 3 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณพรรคประชาชน มีมติโหวตหนุนนั่งนายกฯ ย้ำพร้อมรับทุกเงื่อนไข หัวเราะ “เพื่อไทย” บอกเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย พาประเทศไม่รอด เป็นเหตุยื่นยุบสภา ชี้ให้ไปดูคำแถลงพรรคส้ม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าสภาเมื่อเวลา 09.45 น. โดยผู้สื่อข่าว พยายามถามถึงกรณีที่พรรคประชาชนได้แถลงข่าวสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ฝั่งพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา แต่นายอนุทิน ไม่ได้ตอบคำถาม บอกแค่ว่าขอไปประชุมก่อน ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ดีใจหรือไม่ที่พรรคประชาชนจะโหวตสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ตอบว่า “ก็ดีใจสิ และรู้สึกขอบคุณมากๆ ด้วย” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขึ้นไปประชุมกับพรรคภูมิใจไทยก่อน เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอ้างเหตุผลการยุบสภาว่า เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะนำพาประเทศไปไม่รอด นายอนุทินหัวเราะ ก่อนตอบว่า ดูร่างที่พรรคประชาชนได้แถลงมันมีคำตอบอยู่ในนั้น เมื่อถามว่าพร้อมเซ็นตามข้อตกลงของพรรคประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “พร้อมสิครับ ยอมรับได้ทุกข้อ”.-สำนักข่าวไทย

มติพรรคประชาชน โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

รัฐสภา 3 ก.ย.-มติพรรคประชาชน แถลงยกมือโหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไข 4 ข้อ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงว่า ในช่วงระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนและจากกระแสข่าวเมื่อวานในเรื่องของการยุบสภา ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการหรือมีการรับรองอย่างเป็นทางการจากฝั่งพรรคเพื่อไทยว่ามีการทูลเกล้าฯ เสนอยุบสภาแล้วหรือไม่ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน วันนี้มาพร้อมผู้บริหารพรรคบางส่วนที่ได้มีการประชุมกันเมื่อเช้านี้ถึงข้อสรุปว่าภาคประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน นับตั้งแต่กรณีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุนเซ็น พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดว่าทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศคือการคืนอำนาจให้กับประชาชนตัดสินใจ กำหนดอนาคตของประเทศผ่านการยุบสภา เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ ให้เรามีรัฐบาลใหม่เพื่อให้มีความชอบธรรมมีเสถียรภาพและมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประชาชนทางด้านการเมืองเศรษฐกิจสังคมและความมั่นคง แต่จนถึงวันนี้รัฐบาลผู้มีอำนาจในการยุบสภา กลับยังไม่ให้ความชัดเจนและยังไม่ตอบสนองและมีความพยายามที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด โดยไม่สำนึกถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นผลจากตำแหน่ง พรรคประชาชนจึงเห็นว่าหากพรรคงดออกเสียงในการพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจเกิดสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใดได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไหลกลับไปรวมตัวกันของพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมที่ได้บริหารประเทศอย่างล้มเหลวมาตลอดสองปีที่ผ่านมา รวมทั้งทางเสี่ยงเปิดทางให้หัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐประหารกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หรือไม่ก็เปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกซึ่งขัดต่อหลักที่พรรคประชาชนยึดถือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตลอด 5 วันที่ผ่านมานี้ หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนได้พิจารณาอย่างละเอียดถึงความเข้าใจของสองพรรคต่อเงื่อนไขของพรรคประชาชนและกลไกควบคุมให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องรักษาตามเงื่อนไขดังกล่าว ประกอบกับการรับฟังเสียงของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และผู้แทนราษฎรของพรรคอย่างรอบคอบแล้ว วันนี้คณะกรรมการบริหารของพรรคจึงได้ประชุมและมีมติว่าหากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ความเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภาคประชาชนจะให้ความเห็นชอบแก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไขดังต่อไปนี้ ข้อที่หนึ่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน […]

น้ำท่วมย่านการค้า อ.หล่มสัก ลดลงต่อเนื่อง สัญจรได้แล้ว

2 ก.ย. – น้ำท่วมย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงต่อเนื่อง ถนนหลายสายรถสัญจรได้แล้ว ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำทะลักกัดเซาะถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือน ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าหลาก-ดินโคลนถล่ม เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือน ร้านค้าตามชุมชน และย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลง จากที่เคยท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ลดเหลือ 20-30 เซนติเมตร รวมทั้งบริเวณแยกหอนาฬิกา ซึ่งน้ำท่วมลดลงแต่ยังมีน้ำไหลผ่านอยู่บ้าง และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถนนหลายสายรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว แต่ถนนบางสายยังปิดการจราจร ป้องกันรถที่วิ่งผ่านทำให้น้ำทะลักเข้าร้านค้า เจ้าของร้านค้าบางส่วนเริ่มสำรวจความเสียหายของข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสินค้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม หลังแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่าน อ.หล่มสัก ลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำราวครึ่งเมตรแล้ว หากไม่มีฝนตกหรือมวลน้ำทางตอนเหนือเติมลงมา คาดว่าน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก รวมทั้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน ต.ตาลเดี่ยว ที่อยู่ทางตอนใต้ จะลดลงเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ น้ำทะลักตัดถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือนที่ จ.พิษณุโลก น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่หลากลงคลองเนินกุ่ม กัดเซาะถนนบ้านเหนือ ต.เนินกุ่ม […]