เพื่อไทยสัมมนาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ 2020

เพื่อไทย 3 มี.ค.- เพื่อไทยสัมมนาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ 2020  ชี้ เผด็จการทหารเป็นอุปสรรคการค้าการลงทุน ระบุ อีก 5 ปี เศรษฐกิจถึงจะดีขึ้น เว้นแต่เปลี่ยนเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย – เชื้อโควิด-19 หมดไป


พรรคเพื่อไทยจัดงานสัมมนาเปิดตัวโครงการระดมความคิดเพื่อพัฒนาชุดนโยบายสาธารณะ หัวข้อ “ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ 2020”  ที่พรรคเพื่อไทย มี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค  และนายวิโรจน์ อาลี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมงานสัมมนา

นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาเรื่อง “ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจไทย 2020”  ตอนหนึ่งว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กระบวนการยุติธรรมประสบภาวะวิกฤตอย่างใหญ่หลวง ทำให้ศรัทธาความเชื่อมั่นลดน้อยลง ถือว่าเป็นมหาวิกฤตการณ์ ขณะที่ ปัญหาด้านเศรษฐกิจในไทยเวลานี้ เหมือนเอาคนตาบอดมาทำงานด้วยกัน ทำงานไม่ได้ หากตนเป็นนายกรัฐมนตรี คงจะปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยออก 


นายวีรพงษ์ กล่าวว่า การที่จีนกลายเป็นผู้ผลิต ส่งผลให้ไทยได้รับผลประโยชน์ส่งสินค้าไปให้สหรัฐและยุโรป แต่โชคร้ายที่ไทยเกิดการรัฐประหาร ทำให้ความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก และเมื่อมีโรคระบาดที่จีน ไทยก็ทำบางอย่างที่สะเทือนใจชาวจีน โดยไม่ตระหนักว่า จีนเป็นตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวไทย 

นายวีรพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ห่วงคือ ความไม่รู้เรื่องของรัฐบาล จากคำพูดที่เห็นในวาระต่างๆ และเป็นห่วงความรังเกียจรัฐบาลทหารในประชาคมโลก ที่น่าจะรุนแรงยิ่งขึ้น ในยามที่เศรษฐกิจของโลกชะลอตัวลง เพราะประเทศต่างๆ จะหาทางปกป้องตัวเอง ด้วยการใช้วิธีการกีดกันทางการค้า เช่น สหรัฐอเมริกา  

“ปีที่แล้ว ถือเป็นการเผาหลอก ต้นปีนี้ เผาจริง และปลายปีเป็นการเก็บกระดูก ยืนยัน ไม่ใช่เพราะไม่ชอบรัฐบาล แต่พูดตามข้อเท็จจริงของตัวเลข” นายวีรพงษ์ กล่าว และว่า การแจกเงินด้วยการใช้เงินสดก็ไม่ทั่วถึง รัฐควรประกันรายได้ให้คนชนชั้นล่างและลดภาษีให้กับคนชนชั้นกลาง ขณะที่ โครงการชิม ช้อป ใช้ ก็ไม่มีประโยชน์ เอาไว้หลอกป่าหี่เท่านั้น 


นายวีรพงษ์ กล่าวว่า วัฎจักรเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ จะดีขึ้นใน 10 ปี ซึ่งรัฐบาลอยู่มาแล้ว 5 ปี ก็เหลืออีก 5 ปีเศรษฐกิจจึงจะดีขึ้น นอกจากนี้ ระบอบการปกครองเผด็จการทหาร เป็นอุปสรรคในการเจรจาทางการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ ดังนั้น หากจะเปลี่ยนเงื่อนไข 5 ปีดังกล่าว ก็คือ เชื้อโควิด-19 หมดไป และรัฐบาลเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย  .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ