งานเข้า!! มูลนิธิผู้บริโภคฟ้องศาลฯ ระงับมติ ครม.ต่อสัญญาทางด่วน BEM

กรุงเทพฯ 2 มี.ค. – มูลนิธิผู้บริโภคจับมือสหภาพฯ กทพ.ฟ้องศาลปกครอง ขอให้เพิกถอนมติ ครม.ต่อสัญญาทางด่วน 15 ปี 8 เดือน ให้เอกชน  ระบุขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ทำให้ผู้ใช้ทางต้องจ่ายค่าทางด่วนแพงเกินจริง 


นางสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค  พร้อมทนาย และตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ทางด่วนศรีรัช รวมถึงส่วน D  และสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน- ปากเกร็ด  รวมทั้งเพื่อขอมติของคณะกรรมการ กทพ.ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยขอให้ศาลคุ้มครองทุเลาการบังคับใช้มติคณะรัฐมนตรี โดยขอให้ศาลพิจารณาคำขอคุ้มครองก่อนมีคำพิพากษาโดยเร่งด่วน

นางสารี กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นมติที่เกี่ยวข้องกับบริการสาธารณะ ซึ่งรัฐต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงเป็นผู้ใช้ทาง เพื่อนำไปประกอบการพิจารณา แต่ไม่มีการดำเนินการ การแก้ไขสัญญาสัมปทานดังกล่าวไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 และพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 เพื่อประโยชน์ให้เอกชนรายเดิม ทำให้ไม่เกิดการแข่งขันในการให้บริการ ซึ่งประเด็นนี้เห็นได้ชัดเจนจากการที่มติ ครม.และ กทพ.เร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าวก่อนวันหมดอายุสัญญาสัมปทาน หรือก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีเป้าประสงค์ให้เอกชนรายเดิมได้ต่อสัญญาสัมปทานเพียงรายเดียว


นอกจากนี้ ตัวเลขหนี้ที่นำมาคำนวณอายุการต่อสัญญาสัมปทานให้เอกชนนั้น ก็เป็นตัวเลขที่ภาครัฐมโนไปเองว่าคดีทั้งหมดภาครัฐจะแพ้คดี ทั้งที่ยังไม่มีการต่อสู้หรือถูกฟ้องคดีทั้งหมด แต่กลับนำมารวมในการคำนวณค่าเสียหาย

ทั้งนี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคระบุว่าการขยายอายุสัญญาดังกล่าว ทำให้รัฐเสียหาย 271,721 ล้านบาท ซึ่งควรเป็นรายได้ของ กทพ. หรือรายได้ของประเทศ เพราะหากไม่มีการต่อสัญญาสัมปทานหลังสิ้นสุดสัญญาวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และคาดการณ์รายได้เดิมระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน ซึ่งมาจากสัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 ประมาณ 233,000 ล้านบาท รวมกับรายได้ส่วน D อีกประมาณ 18,000 ล้านบาท และรายได้สัญญาสัมปทานบางปะอิน-ปากเกร็ด 19,600 ล้านบาท และมูลหนี้ที่ต้องชำระจากการแพ้คดีจริงมีแค่ 4,318 ล้านบาทเท่านั้น แต่รัฐบาลกลับนำคดีที่ยังไม่แพ้ไปรวมเป็นค่าเสียหายรวมเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเงินกว่า 78,908 ล้านบาท และที่สำคัญเมื่ออายุสัญญาสัมปทานหมดลงและโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวต้องกลับมาเป็นของรัฐ และเมื่อไม่ต้องมีการแบ่งรายได้กับเอกชน ค่าผ่านทางที่แท้จริงที่ประชาชนต้องจ่ายก็จะอยู่ที่คนละ 36 บาทเท่านั้นไม่ใช่ 60 บาทเหมือนในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ทีมทนายมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยังระบุถึงปัญหาค่าโง่ที่เกิดขึ้นจากการทำสัญญาสัมปทานทางด่วนในอดีต ซึ่งจะต้องไปไล่เบี้ยข้อกฎหมายว่าที่ผ่านมาใครเป็นคนทำสัญญา มีรายละเอียดอย่างไร  และใครให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายในการทำสัญญา ซึ่งต้องไปไล่เบี้ยเอาค่าเสียหายจากบุคคลเหล่านี้ไม่ใช่มาผลักภาระให้แก่ประชาชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-อากาศร้อนในตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง