รู้ไว้ไม่เสียหาย! ป้องกันตัวเองจากไวรัสโควิด-19

กทม 27 ก.พ.- รู้หรือไม่ “ไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19” มีที่มาจากไหน? ความเสี่ยงในการติดเป็นอย่างไร รวมถึงวิธีสังเกตอาการเบื้องต้น แอดมินจะพาไปรู้ข้อมูลคร่าวๆ เหล่านี้กัน เพื่อที่เราจะได้ป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง






เชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 คืออะไร? 

กลุ่มไวรัสโคโรนาถูกค้นพบครั้งเเรกเมื่อปี ค.ศ.1960 ส่งผลให้เกิดไข้หวัดทั่วไป แต่ไม่ได้รุนเเรงมาก และล่าสุด พบที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ต่างจากที่เคยเจอมาก่อน และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ 


โคโรนา คือ เชื้อไวรัสที่มีรูปร่างคล้ายมงกุฎพบครั้งเเรกกลางทศวรรษที่ 1960 โดยมีเชื้อไวรัสอยู่ 4 สายพันธุ์ใหญ่ๆ แต่ตัวที่ระบาดมากที่สุดคือ SARS-CoV พบครั้งเเรกที่ประเทศจีน ปี ค.ศ.2002-2003 ซึ่งได้ระบาดไปทั่วโลกและเกิดอัตราการเสียชีวิตสูง ต่อมาพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ MERS-CoV ซึ่งเกิดขึ้นครั้งเเรกในประเทศซาอุดิอาระเบีย แถบตะวันออกกลาง 

โคโรนา สายพันธุ์นี้เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ซึ่งสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน เป็นสายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่า “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และต่อมาถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19” (Covid-19) มันคือชื่อเดียวกันนั่นเอง


คณะนักวิจัยในมณฑลกวางตุ้งของจีนได้ศึกษาตัวอย่างที่เก็บมาจากจมูก และลำคอ ของผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 พบว่า #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นี้มีพฤติกรรมคล้ายกับไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ มากกว่า #ไวรัสโคโรนา ที่ทำให้เกิดโรคซาร์ส บ่งชี้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถแพร่กระจายได้ง่ายกว่าที่เคยคิดกัน

ผลการศึกษาระบุว่า โรคซาร์สเป็นโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างที่ทำให้ปอดอักเสบ ขณะที่โรคโควิด-19 จะให้เกิดการติดเชื้อทั้งทางเดินหายใจส่วนบน และส่วนล่าง ดังนั้นจึงไม่เพียงแต่ทำให้ปอดอักเสบรุนแรงเท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายได้ง่ายเหมือนไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดธรรมดาด้วย

คณะนักวิจัยยืนยันด้วยว่า โรคนี้สามารถติดต่อกันได้ตั้งแต่ระยะแรกของการติดเชื้อ คือตั้งแต่ผู้ติดเชื้อยังไม่แสดงอาการ พร้อมแนะนำว่าการควบคุมโรคนี้จะต้องใช้วิธีการที่แตกต่างจากวิธีที่ใช้ในการควบคุมโรคซาร์ส

ที่มาของโควิด-19 

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 คาดว่าจุดเริ่มต้นมาจากตลาดอาหารทะเลของเมืองอู่ฮั่น จากผู้ติดเชื้อกลุ่มเเรกที่เป็นคนงานและลูกค้าของตลาดสดแห่งนี้ นอกจากตลาดแห่งนี้จะขายอาหารทะเลแล้วยังขายเนื้อสัตว์ และสัตว์นานาชนิด รวมทั้งสัตว์ปีก งู และค้างคาว 


ความเสี่ยงต่อการติดต่อและอาการบ่งบอก

ลักษณะการแพร่เชื้อจะเหมือนกับไวรัสอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ผ่านการไอ จาม สารคัดหลั่งต่างๆ รวมถึงการที่ไวรัสปนเปื้อนกับและสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อผู้อื่นมาสัมผัสก็สามารถติดต่อกันได้ 


สังเกตอาการเบื้องต้น 

ไวรัสชนิดนี้มีระยะฟักตัวประมาณ 2-14 วัน หลังจากได้รับเชื้อ อาการเริ่มเเรกที่ปรากฏส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการไอ จาม เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย หากผู้ได้รับเชื้อมีร่างกายไม่เเข็งเเรงหรือภูมิคุ้มกันต่ำ จะทำให้รุนเเรงถึงขั้นวิกฤติและอาจเสียชีวิตได้ 




วิธีป้องกันตนเอง

1. หลีกเลี่ยงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงการระบาดของโรค

2. ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน 

3. หมั่นล้างมือด้วยสบู่ให้บ่อยขึ้น

4. พยายามกินอาหารที่ปรุงสุก งดรับประทานอาหารดิบ และใช้ช้อนกลาง

5. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น อาทิ ผ้าเช็ดหน้า ช้อน แก้วน้ำ 

6. พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ที่มีอาการไอ จาม 




คำแนะนำจากคุณหมอ

ก่อนเดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด 

1. หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด หรือชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ 

2. ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล 

3. หากมีอาการป่วย ให้สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น หากอาการไม่ดีให้ไปพบแพทย์

หลังเดินทางกลับมายังประเทศไทย

1. ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามขั้นตอนการคัดกรอง ผู้เดินทาง และมาตรการป้องกันควบคุมโรคของ กระทรวงสาธารณสุข 

2. สังเกตอาการป่วยของตนเอง ภายใน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ โดยให้สวมหน้ากากอนามัยและแจ้งประวัติเดินทาง 

3. ควรงดออกไปในที่ชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่กับจำนวนมาก 

4. งดการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น

โรงพยาบาลใดบ้างที่รองรับการตรวจโคโรนาหรือโควิด-19

ณ เวลานี้มีโรงพยาบาลทั้งของรัฐเเละเอกชนทั้ง 8 แห่ง ที่รองรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ในราคาที่ไม่สูงมาก เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มั่นในตนเองว่าจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงรับการตรวจโดยมีรายชื่อ ดังนี้ 

• โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ค่าบริการตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท

• โรงพยาบาลราชวิถี ค่าบริการตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท

• โรงพยาบาลเปาโล ทุกสาขา ค่าบริการตั้งแต่ 5,000-13,000 บาท

• โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าบริการประมาณ  5,000 บาท

• โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ค่าบริการประมาณ  5,000 บาท

• โรงพยาบาลพญาไท2 ค่าบริการประมาณ  6,500 บาท

• โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ค่าบริการประมาณ  7,000 บาท

• โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ค่าบริการประมาณ  9,900 บาท



***โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจจะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการติดเชื้อของผู้มาตรวจ หากมีโอกาสติดเชื่อสูงราคาก็อาจจะขยับมากกว่าราคาข้างต้น ***

อ้างอิงข้อมูลจาก: 

– อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 

– คู่มือป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย www.nia.go.th/s/covid-19.pdf

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]

ยักยอกเงินวัด

โกงผ่านวัด… อุดช่องโหว่คอร์รัปชัน

17 พ.ค.- อีกประเด็นสำคัญที่ต้องกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง เกิดขึ้นแทบทุกวงการ ไม่เว้นวัด หลายปีที่ผ่านมา คดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนวัด สะเทือนวงการสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ จะไปพูดคุยเรื่องนี้ กับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) .-สำนักข่าวไทย