รู้ไว้ไม่เสียหาย! ป้องกันตัวเองจากไวรัสโควิด-19

กทม 27 ก.พ.- รู้หรือไม่ “ไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19” มีที่มาจากไหน? ความเสี่ยงในการติดเป็นอย่างไร รวมถึงวิธีสังเกตอาการเบื้องต้น แอดมินจะพาไปรู้ข้อมูลคร่าวๆ เหล่านี้กัน เพื่อที่เราจะได้ป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง






เชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 คืออะไร? 

กลุ่มไวรัสโคโรนาถูกค้นพบครั้งเเรกเมื่อปี ค.ศ.1960 ส่งผลให้เกิดไข้หวัดทั่วไป แต่ไม่ได้รุนเเรงมาก และล่าสุด พบที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ต่างจากที่เคยเจอมาก่อน และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ 


โคโรนา คือ เชื้อไวรัสที่มีรูปร่างคล้ายมงกุฎพบครั้งเเรกกลางทศวรรษที่ 1960 โดยมีเชื้อไวรัสอยู่ 4 สายพันธุ์ใหญ่ๆ แต่ตัวที่ระบาดมากที่สุดคือ SARS-CoV พบครั้งเเรกที่ประเทศจีน ปี ค.ศ.2002-2003 ซึ่งได้ระบาดไปทั่วโลกและเกิดอัตราการเสียชีวิตสูง ต่อมาพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ MERS-CoV ซึ่งเกิดขึ้นครั้งเเรกในประเทศซาอุดิอาระเบีย แถบตะวันออกกลาง 

โคโรนา สายพันธุ์นี้เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ซึ่งสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน เป็นสายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่า “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และต่อมาถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19” (Covid-19) มันคือชื่อเดียวกันนั่นเอง


คณะนักวิจัยในมณฑลกวางตุ้งของจีนได้ศึกษาตัวอย่างที่เก็บมาจากจมูก และลำคอ ของผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 พบว่า #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นี้มีพฤติกรรมคล้ายกับไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ มากกว่า #ไวรัสโคโรนา ที่ทำให้เกิดโรคซาร์ส บ่งชี้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถแพร่กระจายได้ง่ายกว่าที่เคยคิดกัน

ผลการศึกษาระบุว่า โรคซาร์สเป็นโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างที่ทำให้ปอดอักเสบ ขณะที่โรคโควิด-19 จะให้เกิดการติดเชื้อทั้งทางเดินหายใจส่วนบน และส่วนล่าง ดังนั้นจึงไม่เพียงแต่ทำให้ปอดอักเสบรุนแรงเท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายได้ง่ายเหมือนไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดธรรมดาด้วย

คณะนักวิจัยยืนยันด้วยว่า โรคนี้สามารถติดต่อกันได้ตั้งแต่ระยะแรกของการติดเชื้อ คือตั้งแต่ผู้ติดเชื้อยังไม่แสดงอาการ พร้อมแนะนำว่าการควบคุมโรคนี้จะต้องใช้วิธีการที่แตกต่างจากวิธีที่ใช้ในการควบคุมโรคซาร์ส

ที่มาของโควิด-19 

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 คาดว่าจุดเริ่มต้นมาจากตลาดอาหารทะเลของเมืองอู่ฮั่น จากผู้ติดเชื้อกลุ่มเเรกที่เป็นคนงานและลูกค้าของตลาดสดแห่งนี้ นอกจากตลาดแห่งนี้จะขายอาหารทะเลแล้วยังขายเนื้อสัตว์ และสัตว์นานาชนิด รวมทั้งสัตว์ปีก งู และค้างคาว 


ความเสี่ยงต่อการติดต่อและอาการบ่งบอก

ลักษณะการแพร่เชื้อจะเหมือนกับไวรัสอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ผ่านการไอ จาม สารคัดหลั่งต่างๆ รวมถึงการที่ไวรัสปนเปื้อนกับและสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อผู้อื่นมาสัมผัสก็สามารถติดต่อกันได้ 


สังเกตอาการเบื้องต้น 

ไวรัสชนิดนี้มีระยะฟักตัวประมาณ 2-14 วัน หลังจากได้รับเชื้อ อาการเริ่มเเรกที่ปรากฏส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการไอ จาม เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย หากผู้ได้รับเชื้อมีร่างกายไม่เเข็งเเรงหรือภูมิคุ้มกันต่ำ จะทำให้รุนเเรงถึงขั้นวิกฤติและอาจเสียชีวิตได้ 




วิธีป้องกันตนเอง

1. หลีกเลี่ยงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงการระบาดของโรค

2. ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน 

3. หมั่นล้างมือด้วยสบู่ให้บ่อยขึ้น

4. พยายามกินอาหารที่ปรุงสุก งดรับประทานอาหารดิบ และใช้ช้อนกลาง

5. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น อาทิ ผ้าเช็ดหน้า ช้อน แก้วน้ำ 

6. พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ที่มีอาการไอ จาม 




คำแนะนำจากคุณหมอ

ก่อนเดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด 

1. หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด หรือชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ 

2. ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล 

3. หากมีอาการป่วย ให้สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น หากอาการไม่ดีให้ไปพบแพทย์

หลังเดินทางกลับมายังประเทศไทย

1. ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามขั้นตอนการคัดกรอง ผู้เดินทาง และมาตรการป้องกันควบคุมโรคของ กระทรวงสาธารณสุข 

2. สังเกตอาการป่วยของตนเอง ภายใน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ โดยให้สวมหน้ากากอนามัยและแจ้งประวัติเดินทาง 

3. ควรงดออกไปในที่ชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่กับจำนวนมาก 

4. งดการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น

โรงพยาบาลใดบ้างที่รองรับการตรวจโคโรนาหรือโควิด-19

ณ เวลานี้มีโรงพยาบาลทั้งของรัฐเเละเอกชนทั้ง 8 แห่ง ที่รองรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ในราคาที่ไม่สูงมาก เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มั่นในตนเองว่าจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงรับการตรวจโดยมีรายชื่อ ดังนี้ 

• โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ค่าบริการตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท

• โรงพยาบาลราชวิถี ค่าบริการตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท

• โรงพยาบาลเปาโล ทุกสาขา ค่าบริการตั้งแต่ 5,000-13,000 บาท

• โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าบริการประมาณ  5,000 บาท

• โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ค่าบริการประมาณ  5,000 บาท

• โรงพยาบาลพญาไท2 ค่าบริการประมาณ  6,500 บาท

• โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ค่าบริการประมาณ  7,000 บาท

• โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ค่าบริการประมาณ  9,900 บาท



***โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจจะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการติดเชื้อของผู้มาตรวจ หากมีโอกาสติดเชื่อสูงราคาก็อาจจะขยับมากกว่าราคาข้างต้น ***

อ้างอิงข้อมูลจาก: 

– อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 

– คู่มือป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย www.nia.go.th/s/covid-19.pdf

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย