กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – กรมการขนส่งทางบกจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพผู้ขับรถโดยสารสาธารณะฟรี เพิ่มความมั่นใจ ปลอดภัย ปลอดโรค
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วยนางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นำคณะผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก ตรวจเยี่ยมกิจกรรมการให้บริการตรวจสุขภาพผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการของผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้ผู้โดยสาร โดยให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เอกซเรย์ปอด ทดสอบการมองเห็นระยะไกล แก่ผู้ขับรถโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นายจิรุตม์ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะวันนี้ได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) ที่เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพผู้ขับรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท กรมการขนส่งทางบกจึงได้จัดกิจกรรมตรวจสุขภาพแก่ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะผู้ขับรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทต่อยอดเพิ่มกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมการให้บริการ จากเดิมเป็นการตรวจสุขภาพผู้ขับขี่รถแท็กซี่เท่านั้น โดยกรมการขนส่งทางบกร่วมกับกรมควบคุมโรคจัดกิจกรรมให้บริการตรวจสุขภาพผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ประสานบุคลากรทางการแพทย์ให้บริการตรวจสุขภาพและประเมินความพร้อมด้านร่างกายของผู้ขับรถก่อนการขับขี่ (Fitness to Drive) ด้วยการคัดกรองโรค ให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เอกซเรย์ปอด ทดสอบการมองเห็นระยะไกล โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 บริเวณอาคาร 4 ชั้น 1 กรมการขนส่งทางบก เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้แก่ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะและผู้โดยสารรถสาธารณะ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2563 ตรวจสุขภาพผู้ขับขี่รถแท็กซี่ไปแล้ว 565 คน ซึ่งผลการตรวจสุขภาพและใบรับรองแพทย์ที่ได้รับจะสามารถนำไปประกอบการดำเนินการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะได้อีกด้วย
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกมีความห่วงใยและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพผู้ขับรถโดยสารสาธารณะที่อาจขาดโอกาสในการดูแลสุขภาพด้วยความจำเป็นในการประกอบอาชีพ แต่มีความเสี่ยงเป็นโรคระบบทางเดินหายใจจากมลพิษบนท้องถนน โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ วัณโรค ไข้หวัดใหญ่ รวมถึงอาการผิดปกติของร่างกายต่าง ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ จึงเพิ่มคุณภาพและความปลอดภัยในการให้บริการรับส่งผู้โดยสาร อีกทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงการเกิดโรคด้วยการให้ความรู้เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพ สร้างความตระหนักในการป้องกัน ควบคุมโรค และลดความเสี่ยงการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจควบคู่กันด้วย .-สำนักข่าวไทย