กรุงเทพฯ 22 ก.พ. –บางจากฯพร้อมปรับกลยุทธ์รับมือเศรษฐกิจ 63 ผันผวน เดินหน้าโครงการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมล่าสุดร่วมสมาชิกบัตรบางจากฯร่วมบริจาค 15 องค์กรการกุศล ย้ำปีที่แล้วแม้รายได้หดแต่ส่วนบางตลาดน้ำมันเติบโต
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า 2563 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะยังคงชะลอการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากสงครามการค้าและการระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ดี บริษัท บางจากฯ พร้อมที่จะปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้ทันต่อสภาวะการณ์ของโลก และยังคงให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาพัฒนาธุรกิจสีเขียวอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งพัฒนาบุคลากรอันเป็นกำลังสำคัญในขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ล่าสุด“สมาชิกบางจาก” ร่วมมอบเงินบริจาคที่ได้รับจากคะแนนสะสมของบัตรบางจากฯปี 2562 ร่วมกับยอดสมทบของบางจากฯ เป็นเงิน 3.5 ล้านบาทให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม รวม 15 แห่ง เช่น มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) มูลนิธิรามาธิบดี สภากาชาดไทย มูลนิธิคุ้มครองเด็ก มูลนิธิธรรมรักษ์ (ผู้ป่วยโรคเอดส์ วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี) มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ เป็นต้น โดยสมาชิกฯสามารถเลือกบริจาคได้ผ่าน feature “ตะกร้าบุญ” บน Mobile Application ของบางจากฯ และ www.bcpgreenmiles.com
สำหรับผลดำเนินงานปี 2562 ว่า บริษัท บางจากฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 190,489 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 จากปีก่อนหน้า เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบที่ตกลงกว่าร้อยละ 10 มีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 8,709 ล้านบาท มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 1,732 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.18 บาท โดยตลอดปี 2562 บริษัท บางจากฯ ยังคงได้รับผลกระทบธุรกิจน้ำมันโลกที่อยู่ในช่วงขาลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้ผลประกอบการของทั้งอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันรวมถึงของบริษัทฯ ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในกลุ่มการตลาดและผลิตภัณฑ์ชีวภาพมีการเติบโตต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้ามีการขยายการลงทุนผ่านโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว
กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA 2,279 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องในด้านปริมาณการจำหน่ายและส่วนแบ่งการตลาด จากปริมาณการจำหน่ายรวม 6,218 ล้านลิตร โดยยอดขายน้ำมันใสในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดที่เติบโตร้อยละ 2 โดยหลักๆ มาจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันในตลาดค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดนั้น ร้อยละ 16 โดย สิ้นปี 2562 มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันกว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ ร้านสะดวกซื้อ SPAR 46 สาขา และร้านกาแฟอินทนิล 600 สาขา –สำนักข่าวไทย