แกนนำรัฐบาลมั่นใจการชี้แจงในสภา

ชลบุรี 22 ก.พ.- แกนนำรัฐบาลมั่นใจการชี้แจงในสภา มีการวางทีมตามประกบ 6 รัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตาม มี 3 พรรคเล็กในพรรคร่วมรัฐบาลจะขอฟังข้อมูลในสภาก่อนพิจารณาว่ายกมือสนับสนุนหรือไม่


คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลได้จัดสัมมนาระดมความคิดเพื่อการรับมือการอภิปรายรัฐมนตรีทั้ง 6 คน โดยมี ส.ส.ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วม นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ จากพรรคประชาธิปัตย์,  นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  พรรคชาติพัฒนา, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และนางสาวศรีนวล บุญลือ จากภูมิใจไทย, นายอนุรักษ์ จุรีมาศ จากพรรคชาติไทยพัฒนา ขณะที่พรรคการเมืองขนาดเล็ก มีนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ 

การสัมมนาในช่วงเช้า เป็นพูดคุยในประเด็นที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะถูกอภิปราย 


ในขณะที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห. จะเข้าร่วมเป็นผู้แทนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กห. ซึ่งถือเป็นการติวเข้มของรัฐมนตรี และ ส.ส. เพื่อให้เข้าใจถึงทิศทางการอภิปรายที่จะมีขึ้น 

ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าการสัมมนาครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและอบอุ่น เป็นการแสดงให้เห็นว่าพรรครัฐบาลมีความเหนียวแน่นและถือเป็นการให้กำลังใจกัน

ส่วนการที่พรรคอนาคตใหม่ ถูกยุบไปนั้น ไม่ได้คิดว่าได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ เพราะยังคงทำหน้าที่เช่นเดิม


ขณะที่ นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ระบุว่า ในกลุ่มพรรคร่วมที่มี 3 พรรคประกอบด้วยพรรคไทยศรีวิไลย์  พรรคประชาธรรมไทย และพรรคไทยรักธรรม เข้าร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้เพื่อต้องการรับฟังข้อมูล ประกอบการพิจารณาการยกมือสนับสนุน แต่ย้ำว่าหากจะให้ยกมือสนับสนุนรัฐมนตรีทุกคนอาจจะเป็นไปไม่ได้ เพราะคุณสมบัติของรัฐมนตรีแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะคุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ฝ่ายค้านอ้างว่ามีหลักฐานชัดเจนว่ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ดังนั้น หากมีฝ่ายรัฐบาลจะขอให้ช่วยยกมือสนับสนุนก็จะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ในแผนการรับมือและเตรียมการชี้แจงช่วย 6 รัฐมนตรี จะใช้ ส.ส.ประกอบแบบ 1 ต่อ 6 โดยมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นประธานอำนวยการยุทธศาสตร์, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เลขานุการและประสานงาน, นายวัชระ กรรณิการ์ หัวหน้าทีมโฆษกและคณะทำงาน และนายทศพล เพ็งส้ม หัวหน้าทีมฝ่ายกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”