fbpx

มติศาล รธน.วินิจฉัยชี้ขาด กฎหมายเอาผิดหญิงทำแท้งขัดรัฐธรรมนูญ

กทม. 19 ก.พ.- มติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก ชี้กฎหมาย วิ อาญา ม.301 หญิงทำแท้งผิดกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ แต่ให้มีผล 360 วันหลังมีคำวินิจฉัย พร้อมให้แก้ไข มาตรา 301 และ 305 ให้สอดคล้องสภาพการณ์


ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ (19 ก.พ.) ในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องกรณี น.ส.ศรีสมัย เชื้อชาติ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กรณีประมวลกฎหมายอาญา(วิอาญา) มาตรา 301 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 และ 28 หรือไม่ และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 305 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 มาตรา 28 และมาตรา 77 หรือไม่


โดยมติเสียงข้างมากเห็นว่า วิอาญา มาตรา 301 ที่บัญญัติว่า “หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนเองแท้งลูกต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นั้น ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 27 และ 28 และเสียงข้างมาก ยังเห็นว่า วิอาญา มาตรา 305 ที่บัญญัติว่า “ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในมาตรา 301 และ 302 เป็นการกระทำของแพทย์ และ (1) จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากสุขภาพของหญิงนั้น (2) หญิงมีครรภ์เนื่องจากการกระทำความผิดอาญาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 276 มาตรา 277 มาตรา 282 มาตรา 283 หรือมาตรา 284 ผู้กระทำไม่มีความผิด”นั้น ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 27 28 และมาตรา 77

ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก ยังเห็นว่าสมควรที่จะมีการปรับปรุงแก้ไข วิอาญา มาตรา 301 และมาตรา 305 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว ซึ่งศาลได้กำหนดคำบังคับโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 74 ให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่วินิจฉัยว่า วิอาญา มาตรา 301 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนั้น มีผลเมื่อพ้น 360 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำวินิจฉัย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรา 27 และ 28 ของรัฐธรรมนูญนั้น เป็นบทบัญญัติที่กำหนดว่าบุคคลชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมเสมอกันในทางกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยความแตกต่างในเรื่องของถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ เพศ ภาษา สภาพทางกาย หรือสุขภาพ ความคิดเห็นทางการเมือง อันไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จะกระทำไม่ได้ ส่วนมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญนั้น เป็นบทบัญญัติที่กำหนดให้รัฐต้องจัดให้มีกฎหมาย หรือยกเลิกปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็น หรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ หรือที่เป็นอุปสรรค์ต่อการดำรงชีวิต โดยไม่ชักช้า เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชน

สำหรับกรณีของ น.ส.ศรีสมัย เชื้อชาติ เป็นแพทย์ในเครือข่ายแพทย์อาสา เพื่อยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ตามกฎหมาย และเปิดคลินิกศรีสมัยการแพทย์ ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 เคยถูกตำรวจ สภ.หัวหิน บุกเข้าจับกุมเนื่องจากสงสัยว่าเปิดทำแท้งผิดกฎหมาย หลังพบว่ามีชายนำถุงดำใส่ศพเด็กทารก 4 ราย ไปทิ้งในถังขยะ แต่ น.ส.ศรีสมัย อ้างว่าได้รับอนุญาตจากสำนักอนามัยการเจริญพันธ์ ของกรมอนามัย ในการทำแท้ง และได้ทำถูกต้องตามระเบียบการทำแท้งของแพทยสภา โดยทำแท้งให้กับหญิงที่ไม่พร้อมตั้งครรภ์ เนื่องจากถูกข่มขืนกระทำชำเรา หรือแม่เป็นเอดส์ ซึ่งต่อมา น.ส.กฤตยา อาชวนิจกุล ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ศาลมีคำวินิจฉัยในวันนี้ โดยอ้างถึงการที่ น.ส.ศรีสมัย ถูกจับกุมและถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิด ทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 302 แต่ก่อนที่ศาลจะมีการพิจารณา น.ส.กฤตยา ได้มีการถอนคำร้องออกไปโดยอ้างว่าต้องการจะทำคำร้องให้สมบูรณ์มากกว่านี้ ศาลจึงมีคำสั่งเมื่อ 17 ตุลาคม 2561 ให้จำหน่ายคดี และ น.ส.ศรีสมัยได้ร้องมา

ทั้งนี้ตามคำร้องเดิมของ น.ส.กฤตยา ระบุว่า วิอาญา มาตรา 301 บัญญัติมุ่งลงโทษแต่เฉพาะหญิงที่มุ่งทำแท้งเป็นสำคัญ ทั้งที่การตั้งครรภ์ไม่ได้เกิดจากการกระทำของหญิงเพียงฝ่ายเดียว แต่ชายที่มีสัมพันธ์กับหญิงต้องร่วมรับผิดและถูกลงโทษด้วย จึงเห็นว่าบทบัญญัติดังกล่าวทำให้ชายและหญิงไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 27 มาตรา 28 กำหนด ส่วน วิอาญา มาตรา 305 ก็ไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ ไม่เท่าทันเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน ที่เน้นการใช้ยายุติการตั้งครรภ์ แทนการใช้หัตถการทางการแพทย์ อีกทั้งยังมุ่งคุ้มครองเฉพาะการกระทำของแพทย์ ไม่ครอบคลุมบุคคลากรทางการแพทย์อื่นๆ ที่ให้บริการภายใต้การควบคุมของแพทย์ จึงไม่สอดคล้องรัฐธรรมนูญมาตรา 77 สมควรมีการแก้ไขให้ครอบคลุมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้อยู่ภายใต้ความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และมีข้อยกเว้นให้กระทำได้โดยไม่มีความผิด หากอายุครรภ์ของหญิงนั้นไม่ถึง 12 สัปดาห์ หรือการตั้งครรภ์มีผลกระทบต่อจิตใจของหญิงนั้น หรือตัวอ่อนในครรภ์มีความพิการ มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคทางพันธุกรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

เปิดโกดังข้าวโครงการรับจำนำ เล็งประมูลสัปดาห์หน้า

“ภูมิธรรม” พาสื่อเปิดโกดังข้าวโครงการรับจำนำรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พิสูจน์ข้าว 10 ปี ยังกินได้ เป็นที่ต้องการแถบแอฟริกา พร้อมจัดเมนูพิเศษตามคำขอ ข้าวกะเพราไข่เจียว ให้ผู้สังเกตการณ์ทดสอบ เล็งเปิดประมูลสัปดาห์หน้า

นายกฯ ปัดแนวคิดแก้ พ.ร.บ. ลดอำนาจผู้ว่าฯ ธปท.

นายกฯ ยันเสียงแข็ง ไม่เคยคิดปลดผู้ว่าฯ ธปท. ยังไงท่านก็ยังอยู่ตรงนี้ รับเห็นต่างเรื่องลดดอกเบี้ย มองเป็นเรื่องธรรมดา โนคอมเมนต์ #saveผู้ว่าแบงก์ชาติ ย้ำชัดไม่เคยมีแนวคิดแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย

“บิ๊กโจ๊ก” ร้องคัดค้านกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 9 ใน 14 คน

รรท.ผบ.ตร. ยอมรับ “บิ๊กโจ๊ก” ร้องคัดค้านกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 9 ใน 14 คน อ้างเป็นคู่ขัดแย้ง กำชับให้ผลตรวจสอบคุณสมบัติกรรมการเสร็จก่อนการสอบ “บิ๊กโจ๊ก”

กปน.-กรมชลประทาน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนรอบใหม่ 5-15 พ.ค.นี้

กปน.-กรมชลประทาน เตรียมแผนรับมือน้ำทะเลหนุนรอบใหม่วันที่ 5-15 พ.ค.นี้ หลังช่วงปลายเดือน เม.ย. ทำให้น้ำเค็มเกินมาตรฐาน ส่งผลให้น้ำประปาอาจมีรสชาติเปลี่ยนแปลงบ้าง มั่นใจทุกขั้นตอนผลิตน้ำประปาที่ต้นสถานีสูบน้ำดิบสำแลถึงผลิต 3 แห่ง น้ำประปามีคุณภาพสูง ขอให้ประชาชนสบายใจ และขอให้ตามข้อมูลคุณภาพน้ำสม่ำเสมอ