สภาการหนังสือพิมพ์ฯ พร้อมร่วมมือทุกองค์กรถอดบทเรียนเหตุกราดยิงโคราช

กรุงเทพฯ 12 ก.พ.- ที่ประชุมคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติหยิบยกประเด็นปัญหาด้วยจริยธรรมของสื่อมวลชนกรณีการนำเสนอข่าวเหตุกราดยิงที่โคราชมาพิจารณา มีมติพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องในการทบทวนและถอดบทเรียนจากเหตุการณ์นี้






นายชาย ปถะคามินทร์ เลขาธิการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมัยที่ 9 ครั้งที่ 2/ 2563 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ประชุมฯ ได้หยิบยกปัญหากรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในช่วงเหตุการณ์ที่คนร้ายก่อเหตุฆ่าผู้บังคับบัญชาแล้วปล้นปืนในค่ายทหารออกมาสังหารประชาชนและเจ้าหน้าที่เสียชีวิตเกือบ 30 คน ในช่วงวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมเห็นว่า สื่อมวลชนส่วนใหญ่สามารถทำหน้าที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารได้อย่างครบถ้วนรอบด้าน แต่ก็มีสื่อมวลชนบางส่วนที่นำเสนอข่าวหมิ่นเหม่ต่อกฎหมายและแนวปฏิบัติทางด้านจริยธรรมที่สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ร่วมกับองค์กรวิชาชีพต่างๆ ที่ร่วมกันจัดทำไว้ อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อเสนอเชิงจริยธรรมอีกบางประการที่เป็นเรื่องใหม่ที่จะต้องมีการพิจารณาทบทวนและถอดบทเรียนร่วมกันระหว่างองค์กรสื่อมวลชนและองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกองค์กรต่อไป



นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบความคืบหน้าของกลุ่มงานต่างๆ ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้แก่ กรณีที่คณะกรรมการจริยธรรมมีมติให้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังองค์กรสมาชิก 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องขอให้สมาชิกระมัดระวังการนําเสนอภาพและเนื้อหาโฆษณา โดยเฉพาะในลักษณะหุ้มปกต้องแสดงข้อความ “พื้นที่โฆษณา” กำกับไว้อย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นเนื้อหาข่าว ซึ่งพบว่าในการลงโฆษณาหุ้มปกเรื่องการเปิดเขื่อนไซยะบุรี พบว่า มีหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เพียงฉบับเดียวที่มีการระบุว่าพื้นที่โฆษณา และเรื่องขอความร่วมมือสมาชิกระมัดระวังเรื่องการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพยานหรือผู้เห็นเหตุการณ์ ในการนําเสนอข่าวเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับบุคคลดังกล่าว


เลขาธิการสภาการหนังสือพิมพ์ฯ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมรับทราบกรณีคณะทำงานคุ้มครองผู้บริโภคสื่อในคณะกรรมการจริยธรรม ทําหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เพื่อขอความร่วมมือให้พิจารณาความเหมาะสมในการนําเสนอภาพจําลองเหตุการณ์ (อิมเมอร์ซีฟ กราฟฟิก) ที่เผยแพร่ในรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ อีกด้วย


สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ

11 กุมภาพันธ์ 2563



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]