อัยการเลื่อนสั่งฟ้อง”ธนาธร”และพวกจัดกิจกรม”แฟล็ชม็อบ”

กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- อัยการเลื่อนสั่งฟ้องคดี “ธนาธร” และพวกรวม 5 คน จัดกิจกรรมแฟล็ชม็อบที่สกายวอล์ก ปทุมวัน เหตุผู้ต้องหาขอให้สอบพยานเพิ่มอีก 4 คน ใน 3 ประเด็น ยืนยันไม่ได้เป็นการชุมนุมแต่เป็นการพบปะประชาชนคล้ายกับที่นายกรัฐมนตรีไปพบประชาชนจำนวนมาก จึงไม่จำเป็นต้องขออนุญาต


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมพวกรวม 5 คน และทนายความเข้าพบพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) ตามนัดหมายฟังคำสั่งคดีว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ หลังจากที่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน มีความเห็นสั่งฟ้องใน 5 ข้อหา คือ ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งต่อผู้รับแจ้ง  ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟฟ้า  ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ  ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และชุมนุมในรัศมีใกล้เขตพระราชฐานไม่เกิน 150 เมตร จากกรณีที่ร่วมกันชุมนุมแฟลชม็อบ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณสกายวอล์ก ปทุมวัน

นายธนาธร เปิดเผยว่า วันนี้ผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องทั้ง 5 คน จะมาพบพนักงานอัยการ และหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีก็จะถูกส่งตัวไปฟ้องที่ศาลแขวงปทุมวันในวันนี้ พร้อมยืนยันจะต่อสู่คดีในชั้นศาล และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และเห็นว่า สิทธิการชุมนุมรวมตัว แสดงออกทางการเมือง เป็นสิทธิ์ อันชอบธรรมของประชาชนทุกคน  การถูกฟ้อง กับ การรณรงค์ทางการเมือง เป็นคนละเรื่องกัน  เรายืนยันมาตลอดว่า เราจะไม่ถอย ไม่ทน และต่อสู้กับอำนาจรัฐประหาร ต่อไป 


ภายหลังการเข้าพบอัยการ ฯ นาย กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยว่า อัยการเลื่อนนัดสั่งคดี ไปเป็นวันที่ 17 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น. โดยมีการสั่ง ให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน สอบเพิ่มเติม ในบางประเด็น และ ผู้ต้องหายื่นคำร้องขอความเป็นธรรมขอให้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก ประกอบด้วยกลุ่มที่ได้ไปพบปะกับนายธนาธรในวันที่รวมตัวจัดกิจกรรม และนักวิชาการด้านกฎหมาย โดยเป็นการให้สอบใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การรวมตัวดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามคำนิยามชุมนุม ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะ การไปพบปะดังกล่าวจึงไม่จำเป็นต้องแจ้งหรือขออนุญาตเจ้าพนักงานตามกฎหมาย และการพบปะนั้นเทียบได้กับการที่นายกรัฐมนตรีไปพบกับประชาชนจำนวนมาก 2 .ตามพระราชบัญญัติชุมนุมสาธารณะ กำหนดห้ามจัดชุมนุมใกล้กับเขตพระราชฐานไม่เกิน 150 เมตร ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาได้แจ้งให้เจ้าพนักงานไปวัดระยะทางแล้ว แต่ไม่มีการวัดระยะทางให้ชัดเจน ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ในระยที่กฎหมายกำหนดไว้ และ 3.กรณีที่จะกล่าวหาว่าเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกรวมตัวแล้วไม่เลิกนั้น ก็ไม่ปรากฏว่าไม่มีการแจ้งจากเจ้าพนักงาน ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะสอบสวนเสร็จภายในวันที่ 17 มีนาคมนี้หรือไม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล