ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63

กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – วันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.) ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ชะตาว่า ร่างกฎหมายงบประมาณฯ ปี 2563 จะเป็นโมฆะหรือไม่ หลังเกิดกรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน แนวทางคำวินิจฉัยจะเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน


ปมปัญหาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 หลังเกิดกรณีมีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติแทนกัน ระหว่างการพิจารณางบประมาณในวาระ 2 และ 3 ทำให้ร่างกฎหมายต้องหยุดชะงัก ซึ่งวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน ยื่นเรื่องต่อประธานสภาฯ ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า งบประมาณปี 2563 จะเป็นโมฆะหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ 3 ส.ส. คือ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ น.ส.ภริม พูลเจริญ และนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ที่ปรากฏเป็นข่าวเสียบบัตรแทนกัน ยื่นหนังสือชี้แจงพร้อมข้อมูลต่อศาลรัฐธรรมนูญ


ทั้งนี้ แนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจมี 2 แนวทาง คือ ให้ร่างกฎหมายงบประมาณฯ ตกไปทั้งฉบับ หรือชี้ให้เห็นปัญหาบางมาตราหรือเนื้อหา เพื่อให้ดำเนินการแก้ไข ซึ่งนักวิชาการมองว่า ปัญหางบประมาณส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากต้องรื้อทั้งฉบับจะส่งผลกระทบมากกว่า


ขณะที่คณะรัฐมนตรีเตรียมพร้อมรอคำวินิจฉัย เพื่อดำเนินการให้เร็วที่สุด ไม่ให้เกิดความล่าช้าเสียหาย และได้เตรียมแนวทางปฏิบัติตามคำวินิจฉัยไว้ทุกทาง

อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 ตกไปทั้งฉบับ มีรายงานว่า คณะรัฐมนตรีได้เตรียมไว้ 2 แนวทาง คือ ให้เสนอสภาฯ พิจารณา 3 วาระรวด ซึ่งจะทำให้ใช้เวลานานพอสมควร หรือใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 143 เนื่องจากกระบวนการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ปี 2563 สภาฯ ทำไม่เสร็จสิ้นตามกรอบเวลา 105 วัน โดยเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ที่ผ่านมติ ครม. ให้วุฒิสภาลงมติรับรองใหม่อีกครั้ง

ไม่ว่าผลคำวินิจฉัยจะเป็นเช่นไร ถือเป็นบทเรียนสำคัญ เพราะนอกจากการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส. ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อภาพลักษณ์สภาฯ แล้ว ยังกระทบต่องบประมาณของชาติ 3.2 ล้านล้านบาท ที่ต้องสะดุดล่าช้าออกไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-อากาศร้อนในตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ราชทัณฑ์เปิดภาพผ้าเช็ดตัว-ผังห้องขังหมายเลข 50

กรมราชทัณฑ์ เปิดภาพและขนาดผ้าเช็ดตัวที่จัดสรรแจกให้ผู้ต้องขังชาย-หญิง ในเรือนจำ พร้อมข้อมูลแดน 5 และผังห้องขังหมายเลข 50

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน