ผบ.ตร.เตรียมลงพื้นที่ติดตามคดียิง “กำนันเตี้ย”

หนองคาย 4 ก.พ. – ผบ.ตร.เตรียมลงพื้นที่ จ.หนองคาย ติดตามคดียิงกำนันหญิงนักพัฒนาเสียชีวิตอย่างอุกอาจ ขณะที่ตลอดทั้งวันมีการระดมนักประดาน้ำงมค้นหาหลักฐานในอ่างเก็บน้ำ


ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และหน่วยกู้ภัยประจักษ์หนองคาย ร่วมวางแผนงมค้นหาหลักฐานภายในอ่างเก็บน้ำห้วยสระคลองใหญ่ ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เพื่อคลี่คลายคดีคนร้ายแต่งกายมิดชิด ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง บุกยิงนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี หรือ “กำนันเตี้ย” กำนันตำบลผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เสียชีวิตและหลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 


อ่างเก็บน้ำแห่งนี้อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 20-30 กิโลเมตร คาดว่ามีหลักฐานอื่นๆ ที่ถูกนำมาทิ้งทั้งปืนขนาด 11 มม. ล้อรถจักรยานยนต์ 2 ข้าง กระจกมองข้าง หรือท่อไอเสียกับอุปกรณ์ตกแต่งรถ หลังเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์สีแดงที่ใช้ก่อเหตุ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีการพ่นสีทับ และสีที่แท้จริงคือสีน้ำเงิน ส่วนล้อ 2 ข้างถูกถอดออก เพราะคนร้ายเกรงว่ารถจะลอยขึ้นมาเหนือน้ำ


ปฏิบัติการงมค้นหาวันนี้ (4 ก.พ.) ได้จัดกำลังเป็นหน้ากระดาน ค้นหาในรัศมี 500 เมตร ขณะที่สภาพน้ำในอ่างลึก 1-3 เมตร เจ้าหน้าที่พบกระจกมองข้างห่างจากจุดที่พบรถจักรยานยนต์ประมาณ 10 เมตร และพบดุมล้อหน้ารถจักรยานยนต์ ห่างจากจุดพบรถจักรยานยนต์ประมาณ 2 เมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดีเพิ่มเติม และได้ยุติการค้นหาในเวลาประมาณ 18.00 น. ชุดประดาน้ำจะดำน้ำค้นหาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (5 ก.พ.) โดยจะทำการค้นหาในด้านฝั่งซ้ายของอ่างเก็บน้ำ

ด้าน พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.หนองคาย ได้ไปที่บ้านเกิดเหตุ และสอบถามเก็บรายละเอียดจากนายพิเดช วงค์ศิริ สามีกำนัน และ น.ส.ธนภา สาวิกัน น้องสาวกำนัน ถึงปมปัญหาข้อขัดแย้งที่กำนันอาจไปมีเรื่องกับใคร หรือทำงานขัดผลประโยชน์กับใครหรือไม่ 

พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า หลังจากพบรถจักรยานยนต์แล้วได้ตรวจสอบพบว่าเป็นรถที่มีการดัดแปลงสภาพ เอาชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และอื่น ๆ มาปะติดปะต่อกันให้กลายเป็นรถคันใหม่ แม้จะทราบว่าเป็นรถที่อยู่ในครอบครองของใคร แต่ก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ใด จากนั้น ผบก.ภ.จว.หนองคาย ได้ไปตรวจที่วัดถ้ำดินเพียง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีปัญหาเรื่องเงินกฐินเมื่อหลายปีก่อน เก็บไว้เป็นข้อมูลประกอบคดีด้วย

ในทางคดี วันนี้พนักงานสอบสวน สภ.สังคม ได้เรียกเจ้าของที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งมีข้อพิพาทกับกำนันไปให้ข้อมูล ทำให้ขณะนี้สอบปากคำญาติ ผู้เห็นเหตุการณ์ และผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้ว 8 ปาก โดยประเด็นการสังหาร ตำรวจตั้งธงไปที่เรื่องข้อพิพาทกับเจ้าของที่ดิน ส.ป.ก. ในการเจรจาช่วยเปิดทางสัญจรให้ชาวบ้าน การทวงคืนผืนป่า 120 ไร่ ที่กำนันเข้าให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของทางจังหวัดยึดคืนผืนป่าในพื้นที่ ต.ผาตั้ง แต่ยังไม่ตัดประเด็นความเป็นไปได้อื่น ๆ ทิ้ง ส่วนวันพรุ่งนี้มีรายงานว่า ผบ.ตร.จะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดี

สามีผู้ตายผวาถูกฆ่าซ้ำ ขอกำลัง รปภ.เข้ม

สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศล “กำนันเตี้ย” ที่บ้านพัก ต.ผาตั้ง อ.สังคม มีชาวบ้านเดินทางมาร่วมพิธีจำนวนมาก  ครอบครัวของกำนันเตี้ย ต่างดีใจที่ตำรวจได้หลักฐานเพิ่มเติม ทั้งรถจักรยานยนต์และหมวกกันน็อก  ขณะที่สามีของกำนันเตี้ย ได้จุดธูปเคาะโลงบอกข่าวดี และขอให้ช่วยตำรวจจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งกำหนดการฌาปนกิจยังไม่กำหนดจนกว่าจะจับผู้ก่อเหตุได้

พบชายต่างถิ่นพูดภาษากลางชัด ก่อนเกิดเหตุยิง “กำนันเตี้ย”

ด้านลูกสาวของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ชาวบ้านเคยพบชายคนหนึ่งสวมหมวกไอ้โม่ง ทับด้วยหมวกกันน็อก  ขี่รถจักรยานยนต์มาสอบถามเส้นทางว่าถนนเส้นนี้ไปไหนได้บ้าง? และสอบถามว่าในละแวกนี้มีบ่อน้ำที่ตกปลาหรือไม่ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับคนร้าย ที่สำคัญยังพบว่าเป็นคนที่พูดภาษากลางชัด ไม่เหมือนคนท้องถิ่น. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ค้นอ่างเก็บน้ำหาหลักฐานเพิ่มคดีฆ่ากำนันหญิงหนองคาย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]