กรุงเทพฯ 28 ม.ค. – ทีเอ็มบีผนึกธนชาตเป็นหนึ่งเดียวภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เตรียมเปิดชื่อแบงก์ใหม่ มุ่งสู่ ONE DREAM, ONE TEAM, ONE GOAL ตั้งเป้าหมายเป็นธนาคารที่ลูกค้าชื่นชอบและบอกต่อมากที่สุด ย้ำลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบ และให้ความสำคัญดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทีเอ็มบี เปิดเผยว่า การรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีกับธนาคารธนชาตจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งจะมีการเปิดเผยชื่อธนาคารใหม่ ส่วนปีนี้จะเน้นไปที่ลูกค้าเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์ให้ลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคารที่มีจำนวน 10 ล้านคนให้ได้มากที่สุด
“ธนาคารทั้ง 2 มุ่งหน้าไปในจุดหมายเดียวกัน มุ่งสู่ ONE DREAM ภายใต้ ONE TEAM ที่แข็งแกร่งเป็นหนึ่งเดียว ตั้งเป้าหมาย ONE GOAL เป็นธนาคารที่คนชื่นชอบและบอกต่อมากที่สุด แม้ว่าปัจจุบันทีเอ็มบี เมื่อรวมกับธนาคารธนชาตจะอยู่ในอันดับ 6 ก็ตาม” นายปิติ กล่าว
นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ธนาคารทีเอ็มบี กล่าวว่า เป้าหมายหลักของธนาคารตอนนี้ คือ การรวมเป็นหนึ่งเดียวภายในกรกฎาคม 2564 โดยลูกค้าต้องไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ซึ่งธนาคารมีแผนที่จะเริ่มทยอยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดเด่นของแต่ละธนาคารให้ลูกค้าของอีกธนาคารได้รู้จักและทดลองใช้ และกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้จะเริ่มเปิดให้บริการ Co-Location/ Co-Brand Branch ที่เป็นสาขาร่วมระหว่าง 2 ธนาคาร ซึ่งปีนี้วางแผนจะเปิดทั้งหมด 90 สาขา ครอบคลุมจังหวัดหลัก ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกมากขึ้นในการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของทั้ง 2 ธนาคาร ขณะที่เดือนมีนาคม ลูกค้าทั้ง 2 ธนาคารจะได้รับความสะดวกจากการใช้บริการ ATM / ADM จำนวนกว่า 4,700 เครื่อง ฟรีค่าธรรมเนียมฝาก ถอน โอน ลูกค้าทีเอ็มบี ทัช สามารถทำรายการกดเงินไม่ใช้บัตรจากเครื่องของธนชาตได้ และบิลสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ บัตรเครดิตของธนชาต ก็สามารถชำระได้ที่เครื่องของทีเอ็มบี
สำหรับการโอนย้ายพนักงาน จะมีการทยอยโอนย้ายเป็นระยะ โดยเริ่มที่กลุ่มผู้บริหารระดับสูง (C-Suite Level) ได้มีการรวมเป็นทีมเดียว เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนการรวมกิจการให้เป็นไปอย่างราบรื่น รวมทั้งพนักงานธนาคาร ซึ่งทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนเรื่องสวัสดิการจะมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่ให้น้ำหนักกับเงินก้อนช่วยเหลือฉุกเฉินยามเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่ให้เงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ในอัตราที่สูงกว่าตลาด ให้พนักงานสามารถเก็บออมได้เพียงพอไว้ใช้ยามเกษียณ และพัฒนาทักษะของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากดิจิทัลเทคโนโลยี
สำหรับทีมผู้บริหารของธนาคารใหม่นี้ ประกอบด้วย นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่, นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อย, นายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์, นางมารี แรมลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารนวัตกรรมลูกค้ารายย่อย, นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ, นายฮัน คริเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารความเสี่ยง, นางประภาสิริ โฆษิตธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน, นายมาร์คัส โดเลงก้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยีและปฏิบัติการ, นางวิจิตรา ธรรมโพธิทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล, นางกาญจนา โรจวทัญญู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด ซึ่งมีผลตั้งแต่ต้นปี และนางภิตติมาศ สงวนสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตรวจสอบ จะมีผลไตรมาส 2 ปี 2563 .-สำนักข่าวไทย