สุวรรณภูมิ 23 ม.ค.-ก.แรงงาน รับแรงงานไทยในอิสราเอลป่วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ไปรักษาตัวที่ รพ.ในภูมิลำเนา พร้อมตรวจสอบสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองอธิบดีกรมการจัดหางานบริหาร กระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เดินทางมารับ นายไพบูรณ์ บุญภา อายุ 39 ปี แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล โดยกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ สัญญาจ้าง 2 ปี ในตำแหน่งคนงานเกษตร ตั้งแต่ 10 พฤษภาคม 2561 และได้หลบหนีนายจ้างเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ปัจจุบันไม่มีที่ทำงานและที่พักเป็นหลักแหล่ง ขณะนี้มีสถานะเข้าเมืองผิดกฎหมาย ไม่มีนายจ้างรายใดรับเป็นนายจ้าง จึงไม่สามารถติดตามสิทธิประโยชน์ใดๆได้
โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 นายไพบูรณ์ป่วยด้วย โรคหลอดเลือดในสมองตีบหรืออุดตัน และมีเชื้อวัณโรคในระยะร้ายแรง และต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ในอิสราเอล จากนั้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 นายไพบูรณ์ อาการดีขึ้น และพร้อมเดินทางกลับประเทศไทย ช่วงบ่ายวันนี้ โดยได้รับการประสานช่วยเหลือจากกระทรวงต่างประเทศ
นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยรายนี้ กระทรวงแรงงานได้ประสานความร่วมมือหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงต่างประเทศในการประสานส่งตัวกลับมาไทย กระทรวงสาธารณสุขช่วยเหลือประสานโรงพยาบาลตามภูมิลำเนา และ สปสช. ช่วยเหลือเรื่องสิทธิรักษาพยาบาล ส่วนกรณีที่นายไพบูรณ์หลบหนีนายจ้างจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศและกรณีเจ็บป่วยจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากกองทุนฯเนื่องจากต้องเป็นกรณีประสบอันตรายจนถึงพิการหรือทุพพลภาพจึงจะได้รับการสงเคราะห์ จึงฝากย้ำไปยังแรงงานที่ต้องการจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศขอให้ซื้อสัตย์ต่อนายจ้างที่กระทรวงแรงงานคัดสรรมาให้แล้ว แต่หากรู้สึกไม่พอใจอยากเปลี่ยนนายจ้างก็สามารถทำได้ แต่ขอให้แจ้งมายังหน่วยงานของกระทรวง ซึ่งพร้อมทำเรื่องเปลี่ยนให้ตามความเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องหนี เพราะจะทำให้แรงงานเสียสิทธิ ไม่ได้รับการคุ้มครองจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ
สำหรับแรงงานไทยที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อให้เดินทางไปด้วยวิธีที่ถูกกฎหมาย 5 วิธี ได้แก่ บริษัทจัดหางานจัดส่งไป กรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่งไปทำงาน ผู้ที่จะไปทำงานติดต่อหางานเอง ซึ่งต้องแจ้งการเดินก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วัน นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างของตนไปทำงานและนายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างของตนไปฝึกงาน
นอกจากนี้จะต้องสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ และไม่หลบหนีนายจ้าง ก็จะได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายทุกประการ
ด้าน ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้ตรวจสอบสิทธิแล้วสามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพในการรักษา-รับส่งต่อ ผู้ป่วย ที่ป่วยอัมพาต ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ (stroke) โดยประสานไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์มารับและส่งตัวไปรักษาต่อยังที่โรงพยาบาลทุ่งฝน จ.อุดรธานี ในกรณนี้แม้ว่าผู้ป่วยจะทำผิดกฏจนอาจจะไม่ได้รับสิทธิช่วยเหลือกรณีเจ็บป่วยจากกองทุนฯของกระทรวงแรงงาน แต่เมื่อกลับมายังประเทศไทยการได้รับสิทธิรักษาเป็นคนละส่วนกัน สิทธิบัตรทองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สปสช.พร้อมจะดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่และที่ผ่านมาเคยมีกรณีแรงงานไทยที่ถูกส่งกลับมารักษาที่ไทยแล้วหลายราย สปสช.พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ ครั้งนี้จะนำข้อมูลไปปรับปรุงพัฒนาให้การดูแลพี่น้องแรงงานไทยสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ขอให้พี่น้องแรงงานไทยสบายใจได้ .-สำนักข่าวไทย