กบข. ปลื้มผลงานปี 62 สร้างผลตอบแทนลงทุนให้สมาชิก 5.73%

กรุงเทพ ฯ 20 ม.ค. –  กบข. เผยผลตอบแทนการลงทุนกองสมาชิกปี 2562 สามารถสร้างผลตอบแทนได้5.73% ตอกย้ำความเชื่อมั่น กลยุทธ์กระจายความเสี่ยงไปต่างประเทศในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและความผันผวนต่ำ เพื่อสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องสม่ำเสมอ ตั้งเป้าปี 2563 ลงทุนเพิ่มหากได้รับอนุมัติขยายเพดานการลงทุนต่างประเทศเพิ่มเป็น 40%


นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ณ สิ้นปี 2562 กบข. สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนสำหรับสมาชิก กบข. ได้ 5.73% ถือเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์เน้นกระจายความเสี่ยงไปยังกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและความผันผวนต่ำ โดยในปี 2562 สินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงประกอบด้วย ตราสารทุนโลก 18.38% กองทุนแอปโซลูทรีเทิร์น 13.33% ไพรเวทอิควิตี้ 6.38% และอสังหาริมทรัพย์ 6.16% ในขณะที่ตราสารหนี้ไทยและตราสารทุนไทยให้ผลตอบแทน 4.38% และ 2.36% ตามลำดับ

สำหรับปี 2563 นายวิทัยฯ กล่าวว่า กบข. ยังคงนโยบายสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องสม่ำเสมอให้กับสมาชิก โดยจะเข้าลงทุนในต่างประเทศกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและความผันผวนต่ำ ทั้งนี้ กบข. ประเมินว่าจากการผ่อนคลายความกังวลของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ประกอบกับสภาพคล่องในตลาดเงินโลกที่ยังคงมีอยู่ในระดับสูง จะเป็นปัจจัยบวกส่งผลให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวสูงกว่าในปีที่ผ่านมา แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง และปัจจัยความไม่แน่นอนจากผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนก็ตาม 


“กบข. ตั้งเป้ากระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างประเทศที่มีความเสี่ยงและความผันผวนต่ำในปี 2563 แต่ทั้งนี้ก็ต้องหลังจากได้รับอนุมัติให้ขยายเพดานการลงทุนไปต่างประเทศจาก 30% เป็น 40% ของสินทรัพย์รวม” นายวิทัย กล่าว

สำหรับภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศนั้น นายวิทัยฯ คาดว่าจะขยายตัวดีต่อเนื่องจากปี 2562 โดยได้รับอานิสงค์จากการบริโภคในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นอันเนื่องมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ การประกันรายได้สำหรับเกษตรกร การลดค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อย และมาตรการ ‘ชิม ช้อป ใช้’ เป็นต้นโดยในปี 2563 หลังจากสภาผ่าน พ.ร.บ. งบประมาณ รัฐบาลน่าจะสามารถออกมาตรการในลักษณะเดียวกันเพิ่มเติม รวมถึงภาครัฐสามารถใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคได้มากขึ้น ทั้งนี้ กบข. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 2.8-3.0% โดยมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1%.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง