กรมศุลกากร เตรียมเสนอแพ็กเกจพัฒนาด่านชายแดนใต้ต่อครม.

นราธิวาส 19 ม.ค. – ครม.สัญจร นัดแรกของปี ที่นราธิวาส 20 – 21 ม.ค. ติดตามงานพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน  และความปลอดภัย ขณะที่กรมศุลกากร เตรียมเสนอแพ็กเกจพัฒนาด่านชายแดนใต้ จัดตั้งร้านค้าปลอดภาษี  ต่อ ครม.สัญจร นราธิวาส คาดกระตุ้นการใช้จ่ายในพื้นที่  มั่นใจประชุม ครม. สร้างความเชื่อมั่นให้พื้นที่ เผยภาพรวมเหตุรุนแรงลดลง 


นายจักกฤช อุเทนสุต นายด่านศุลกากรสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาสเปิดเผยว่า ด่านสุไหงโก-ลกมีมูลค่าการนำเข้าส่งออกปีละ 3,200 ล้านบาทแต่ปี 2562 จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทำให้ตัวเลขปรับลดลงอยู่ที่ 2,900ล้านบาท  โดยสินค้าหลักร้อยละ 80 เป็นสินค้านำเข้าจากมาเลเซีย จำพวกไม้แปรรูปและอาหารทะเล   ขณะที่ไทยมีสินค้า ส่งออกไปยังมาเลเซีย อาทิ แป้ง   น้ำยางพารา ประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี  และตอนนี้ภาพรวมเศรษฐกิจของอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสในช่วงนี้ลดต่ำลงจากปีก่อนๆ ส่วนหนึ่งอาจมาจากปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินและภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งเห็นได้จากการนำเข้าไม้แปรรูปลดลงประมาณร้อยละ 50 นอกจากนี้ยังมีเรื่องของปริมาณการผลิตและความต้องการสินค้าในภาพรวมที่ปรับลดลง ที่เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของโลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามการค้าหรือความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน

นายจักกฤช กล่าวถึงภาพรวมด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของศุลกากรภาค 4 ซึ่งมีทั้งหมด 18 ด่าน ว่าด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก มีมูลค่าการจัดเก็บรายได้ในลำดับที่ 5 ของศุลกากรภาค 4  ขณะที่ศุลกากรภาคที่ 4 นั้นมีมูลค่าการค้าชายแดน สูงที่สุดของประเทศ  ยอมรับว่าปัญหาความไม่สงบในพื้นที่กระทบต่อการค้าชายแดนสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ   โดยชายแดนติดกับรัฐกลันตันนั้น ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะประชาชนทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ทำให้ยังมีการติดต่อ ค้า ขายระดับชุมชน 


นายจักกฤชยังกล่าวถึงการขับเคลื่อนนโยบายเมืองต้นแบบ การค้าชายแดน สุไหงโก-ลก ตามนโยบายสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนว่า  การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.นราธิวาส  ทาง ศอ.บต. ได้เสนอ แพ็กเกจโครงการเพื่อพัฒนาพื้นที่ เช่น การสร้างถนนไฮเวย์ จากสุไหงโกลก ไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งเสริมศักยภาพด่านจังหวัดชายแดนภาคใต้  พร้อมเตรียมเสนอจัดตั้งร้านค้าปลอดภาษี วงเงินไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งจะซื้อได้ใน อ. หนองจิก จ.ปัตตานี  อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซามา 5 ปี ทั้งนี้เห็นว่าการจัดประชุม ครม.สัญจร จะสร้างความเชื่อมั่นในพื้นที่ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี และมองว่า ตั้งแต่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จนถึงรัฐบาลนี้ ภาพรวมสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น เหตุความรุนแรงลดลง

นายจักกฤช ให้ความมั่นใจว่าด่านศุลกากรสุไหงโกลลก ยังทำงานด้านความมั่นคง ควบคู่กับการกับการอำนวยความสะดวกด้านการค้า ซึ่งผู้ที่ผ่านเข้า-ออกด่านศุลกากรสุไหงโก-ลกเมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้วก็จะต้องผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ทั้งหมด 100% ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้

ด้านพันตำรวจโทธนากร สับประสาน สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่าด่านนี้มีช่องตรวจแบ่งเป็นช่องยานพาหนะ ช่องตรวจเดินเท้า  มีประชาชนผ่านเข้าออกวันละ 6-7 พันคน โดยได้นำระบบตรวจสอบบุคคล จากภาพทั้งในส่วนของคนและยานพาหนะไปพร้อมกันซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังบุคคลผ่านเข้าออกด่านได้ และล่าสุดก็มีการใช้ระบบไบโอแมทริกซ์เข้ามาช่วยในการตรวจสอบโดยจะมีการให้ข้อมูลผู้ต้องสงสัย ซึ่งการทำงานของเครื่องถือว่าได้ผลดีทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้(20 ม.ค.)พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจราชการ กลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบด้วย นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา รวมทั้งจะประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ  ครม.สัญจร นัดแรกของปี ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส ระหว่างวันที่ 20 – 21 มกราคมนี้ เพื่อติดตามงานพัฒนาด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการค้าชายแดน และ เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ SEC ภายใต้โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” พร้อมพบปะตัวแทนหลากหลายกลุ่มในสังคมพหุวัฒนธรรม ทั้งชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยพุทธและมุสลิม รวมถึงติดตามการรักษาความสงบและความปลอดภัยของประชาชน

สำหรับข้อเสนอของกลุ่มจังหวัด เพื่อให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาในการลงพื้นที่ครั้งนี้ แบ่งเป็น 5 ด้าน คือ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการค้า การลงทุน ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านการท่องเที่ยวและด้านจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวม 12 โครงการ เช่น ข้อเสนอการจัดซื้อที่ดินสำหรับการดำเนินงานในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส เนื้อที่ประมาณ 1,683 ไร่ โดยให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยจัดซื้อ เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมถึงการขอรับการสนับสนุนด้านอัตรากำลัง มาเพิ่มศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]

“ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC บอกทิศทางดี

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC ไทย-กัมพูชา ขอพูดทีเดียวหลังเจรจา บอกทิศทางดี ด้าน “บิ๊กเล็ก” หวังพรุ่งนี้มีข่าวดี มั่นใจ 90% ยอมรับกังวลบ้าง แต่มีผู้สังเกตการณ์ประเทศอื่น เขมรคงไม่กล้า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้รับฟังข้อมูลจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ฝ่ายเลขานุการ รายงานผลการหารือ ในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม จากการพูดคุยมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี โดยจะแถลงรายละเอียดเมื่อมีการหารือเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.68) ซึ่งการเจรจาในวันพรุ่งนี้ได้ให้แนวทาง พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ได้ข้อยุติอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าในการหารือครั้งนี้จะไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถตอบได้ ด้านพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประขุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า มีความมั่นใจ […]