กรมศุลกากร เตรียมเสนอแพ็กเกจพัฒนาด่านชายแดนใต้ต่อครม.

นราธิวาส 19 ม.ค. – ครม.สัญจร นัดแรกของปี ที่นราธิวาส 20 – 21 ม.ค. ติดตามงานพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน  และความปลอดภัย ขณะที่กรมศุลกากร เตรียมเสนอแพ็กเกจพัฒนาด่านชายแดนใต้ จัดตั้งร้านค้าปลอดภาษี  ต่อ ครม.สัญจร นราธิวาส คาดกระตุ้นการใช้จ่ายในพื้นที่  มั่นใจประชุม ครม. สร้างความเชื่อมั่นให้พื้นที่ เผยภาพรวมเหตุรุนแรงลดลง 


นายจักกฤช อุเทนสุต นายด่านศุลกากรสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาสเปิดเผยว่า ด่านสุไหงโก-ลกมีมูลค่าการนำเข้าส่งออกปีละ 3,200 ล้านบาทแต่ปี 2562 จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทำให้ตัวเลขปรับลดลงอยู่ที่ 2,900ล้านบาท  โดยสินค้าหลักร้อยละ 80 เป็นสินค้านำเข้าจากมาเลเซีย จำพวกไม้แปรรูปและอาหารทะเล   ขณะที่ไทยมีสินค้า ส่งออกไปยังมาเลเซีย อาทิ แป้ง   น้ำยางพารา ประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี  และตอนนี้ภาพรวมเศรษฐกิจของอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสในช่วงนี้ลดต่ำลงจากปีก่อนๆ ส่วนหนึ่งอาจมาจากปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินและภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งเห็นได้จากการนำเข้าไม้แปรรูปลดลงประมาณร้อยละ 50 นอกจากนี้ยังมีเรื่องของปริมาณการผลิตและความต้องการสินค้าในภาพรวมที่ปรับลดลง ที่เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของโลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามการค้าหรือความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน

นายจักกฤช กล่าวถึงภาพรวมด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของศุลกากรภาค 4 ซึ่งมีทั้งหมด 18 ด่าน ว่าด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก มีมูลค่าการจัดเก็บรายได้ในลำดับที่ 5 ของศุลกากรภาค 4  ขณะที่ศุลกากรภาคที่ 4 นั้นมีมูลค่าการค้าชายแดน สูงที่สุดของประเทศ  ยอมรับว่าปัญหาความไม่สงบในพื้นที่กระทบต่อการค้าชายแดนสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ   โดยชายแดนติดกับรัฐกลันตันนั้น ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะประชาชนทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ทำให้ยังมีการติดต่อ ค้า ขายระดับชุมชน 


นายจักกฤชยังกล่าวถึงการขับเคลื่อนนโยบายเมืองต้นแบบ การค้าชายแดน สุไหงโก-ลก ตามนโยบายสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนว่า  การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.นราธิวาส  ทาง ศอ.บต. ได้เสนอ แพ็กเกจโครงการเพื่อพัฒนาพื้นที่ เช่น การสร้างถนนไฮเวย์ จากสุไหงโกลก ไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งเสริมศักยภาพด่านจังหวัดชายแดนภาคใต้  พร้อมเตรียมเสนอจัดตั้งร้านค้าปลอดภาษี วงเงินไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งจะซื้อได้ใน อ. หนองจิก จ.ปัตตานี  อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซามา 5 ปี ทั้งนี้เห็นว่าการจัดประชุม ครม.สัญจร จะสร้างความเชื่อมั่นในพื้นที่ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี และมองว่า ตั้งแต่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จนถึงรัฐบาลนี้ ภาพรวมสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น เหตุความรุนแรงลดลง

นายจักกฤช ให้ความมั่นใจว่าด่านศุลกากรสุไหงโกลลก ยังทำงานด้านความมั่นคง ควบคู่กับการกับการอำนวยความสะดวกด้านการค้า ซึ่งผู้ที่ผ่านเข้า-ออกด่านศุลกากรสุไหงโก-ลกเมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้วก็จะต้องผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ทั้งหมด 100% ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้

ด้านพันตำรวจโทธนากร สับประสาน สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่าด่านนี้มีช่องตรวจแบ่งเป็นช่องยานพาหนะ ช่องตรวจเดินเท้า  มีประชาชนผ่านเข้าออกวันละ 6-7 พันคน โดยได้นำระบบตรวจสอบบุคคล จากภาพทั้งในส่วนของคนและยานพาหนะไปพร้อมกันซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังบุคคลผ่านเข้าออกด่านได้ และล่าสุดก็มีการใช้ระบบไบโอแมทริกซ์เข้ามาช่วยในการตรวจสอบโดยจะมีการให้ข้อมูลผู้ต้องสงสัย ซึ่งการทำงานของเครื่องถือว่าได้ผลดีทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้(20 ม.ค.)พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจราชการ กลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบด้วย นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา รวมทั้งจะประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ  ครม.สัญจร นัดแรกของปี ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส ระหว่างวันที่ 20 – 21 มกราคมนี้ เพื่อติดตามงานพัฒนาด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการค้าชายแดน และ เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ SEC ภายใต้โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” พร้อมพบปะตัวแทนหลากหลายกลุ่มในสังคมพหุวัฒนธรรม ทั้งชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยพุทธและมุสลิม รวมถึงติดตามการรักษาความสงบและความปลอดภัยของประชาชน

สำหรับข้อเสนอของกลุ่มจังหวัด เพื่อให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาในการลงพื้นที่ครั้งนี้ แบ่งเป็น 5 ด้าน คือ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการค้า การลงทุน ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านการท่องเที่ยวและด้านจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวม 12 โครงการ เช่น ข้อเสนอการจัดซื้อที่ดินสำหรับการดำเนินงานในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส เนื้อที่ประมาณ 1,683 ไร่ โดยให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยจัดซื้อ เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมถึงการขอรับการสนับสนุนด้านอัตรากำลัง มาเพิ่มศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]

“อนุทิน” ยันอุบลฯ ไม่โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน

อุบลราชธานี 8 มิ.ย.- “อนุทิน” ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน ขณะที่ชาวบ้านยอมรับหวาดกลัว แต่อุ่นใจมีทหารคอยดูแลความปลอดภัย นายอนุทิน​ ชาญ​วีระกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นำคณะปฏิบัติราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี จุดแรกที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ หมู่ที่ 17 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน เพื่อมอบสิ่งของให้ทหาร​ ชรบ.​อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จากนั้นไปดูหลุมหลบภัย 2 จุด คือหลุมหลบภัย โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทินเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์​จากอุบลราชธานี มาพื้นที่ชายแดน​พร้อมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครอง​ก่อนวันพุธที่ 11 มิถุนายน​ จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 7 จังหวัดมาประชุมร่วมกันที่อุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ​ ถึงแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายอนุทิน แนะนำผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ 7 จังหวัด รวมถึงสส. ทั้งของพรรคภูมิใจไทยและต่างพรรคที่มาเป็นกำลังใจให้ทุกคนโดยเฉพาะทหารที่เป็นกำลังสำคัญ​ และรับรองได้ว่าจะไม่ให้ใครรุกรานเข้ามาแม้แต่มิลลิเมตรเดียว​ พร้อมยืนยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว คนไทยทุกคนพร้อมที่จะคอยตรึงแนวหลัง ให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มารอต้อนรับคณะของนายอนุทิน ยอมรับว่าหวาดกลัวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะเคยประสบเหตุ เหยียบกับระเบิด […]