ภัยแล้งขยายวงกว้าง พืชผลการเกษตรยืนต้นตาย

พิจิตร 18 ม.ค.- สถานการณ์ภัยแล้งขยายวงกว้าง พืชผลการเกษตรยืนต้นตาย แต่บางจังหวัดชาวนายังคงปลูกข้าว โดยขุดบ่อบาดาลแม้ว่าจะมีการขอความร่วมมือให้งดทำนาปรัง


เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดสายพันธุ์ข้าวเหนียวในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลท่าหลวง  อำเภอเมืองพิจิตร นำต้นข้าวโพดที่เริ่มยืนต้นตาย มาให้ผู้สื่อข่าวดู หลังจากที่ต้องเผชิญภัยแล้ง แหล่งน้ำตามธรรมชาติทั้งห้วยหนองลำคลองและบึงลดระดับลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นปี ข้าวโพดสายพันธุ์ข้าวเหนียวของกลุ่มเกษตรกรในหมู่บ้านจำนวนกว่า 1,000 ไร่ ที่มีอายุเฉลี่ย 1 เดือนเศษ มีสภาพยืนต้นเหี่ยวเฉาตาย เพราะขาดน้ำไปหล่อเลี้ยงลำต้นเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตชลประทาน   ไม่มีแม่น้ำสายหลักไหลผ่าน ประกอบกับบ่อบาดาลที่มีอยู่ก็ประสบปัญหาน้ำสูบไม่ขึ้น ทำให้เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดไม่สามารถหาแหล่งน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวโพดสายพันธุ์ข้าวเหนียวได้

เกษตรกร เล่าว่า ปีนี้ภัยแล้งมาเร็วกว่าทุกปี แหล่งน้ำตามธรรมชาติลดระดับลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ปริมาณน้ำใต้ดินก็ลดระดับลงตามปริมาณน้ำในแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่แห้งขอดตามไปด้วย ทำให้น้ำที่สูบจากระบบบ่อบาดาลเพื่อที่จะรดต้นข้าวโพดไม่มีน้ำให้สูบขึ้นแต่อย่างใด  ชาวสวนส่วนใหญ่จึงตัดสินใจปล่อยให้ต้นข้าวโพดเหี่ยวเฉายืนต้นตาย   เพราะราคาข้าวโพดที่จะขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7 – 8 บาท หรือตันละ 7 – 8 พันบาทเท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มกับต้นทุนต่างๆ ที่จะตามมาหากต้องลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะการว่าจ้างเอกชนมาปรับสภาพขุดเจาะบ่อบาดาลให้มีความลึกเพื่อหาแหล่งน้ำที่ต้องใช้เงินจำนวนกว่า 3 หมื่นบาท 


ปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท

แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดชัยนาท ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ได้ลดระดับลงต่ำจากระดับเก็บกักถึง 3 เมตร 34 เซนติเมตร (จาก 16.50 เมตร เหลือ 13.16 เมตร) ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาต้องปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนลง จากที่เคยระบายน้ำ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อไปช่วยผลักดันน้ำเค็มในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อสัปดาห์ก่อนลดลงมาเหลือ 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนลดต่ำลงไปมากกว่านี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการส่งน้ำเข้าระบบชลประทานด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ เพื่อไปรักษาระบบนิเวศ และเพื่ออุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชลประทานได้เร่งกำจัดผักตบชวา บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่ไหลมากองรวมกันเต็มลำน้ำ ยาวกว่า 300 เมตร เพื่อไม่ให้กีดขวางทางน้ำ และลดการระเหยของน้ำ


แม่น้ำชีแห้งขอด ประปาหมู่บ้านขาดน้ำ

โคราชแล้งโหดแม่น้ำชีแห้งขอด แหล่งประปาหมู่บ้านขาดน้ำ 3 เดือน ประกาศภัยแล้ง 5 อำเภอ ที่บ้านใหม่ดอนเปล้า หมู่ 15 ตำบลใหม่ อำเภอโนนสูง สระน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่ 8 ไร่ น้ำแห้งขอด ไม่มีน้ำผลิตน้ำประปา ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือน เดือดร้อนขาดแคลนน้ำใช้มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หรือนาน 3 เดือนแล้ว

นายทองสุข กลอนกลาง ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า สระน้ำแห่งนี้ไม่เคยแห้ง แต่ปีนี้แล้งหนักสุดในรอบ 20 ปี จึงอยากวอนภาครัฐเร่งหาทางช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเร่งด่วน

เช่นเดียวกัน ลำน้ำชี แม่น้ำสายหลักช่วงไหลผ่าน อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา สภาพแห้งขอด เหลือน้ำเล็กน้อย แม้ชาวบ้านช่วยกันกั้นฝายทดน้ำขนาดใหญ่ แต่ปริมาณน้ำก็ไม่เพียงพอผลิตประปาแจกจ่าย 12 หมู่บ้านและชุมชนตลาด เขตเศรษฐกิจของ อ.แก้งสนามนาง โดยเฉพาะโรงพยาบาลแก้งสนามนาง อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ

จ.นครราชสีมา ได้ประกาศเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยแล้ง 5 อำเภอ 45 ตำบล 441 หมู่บ้าน 13 ชุมชน ประกอบด้วย อ.โนนสูง อ.ปักธงชัย อ.โชคชัย อ.เทพารักษ์ และ อ.จักราช ส่วนราชการต้องแจกน้ำช่วยเหลือ

น้ำยมแห้ง ชาวนาเจาะบ่อบาดาลสู้แล้ง

สภาพแม่น้ำยม รวมถึงแหล่งน้ำต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เริ่มแห้งขอดลงทุกขณะ และถูกจ่อด้วยเครื่องสูบน้ำของชาวนาตลอดสาย เพื่อดึงน้ำขึ้นไปทำนาข้าว มีชาวบ้านในพื้นที่ต่างนำเครื่องมือมาจับปลาในน้ำที่เหลืออยู่เป็นแอ่ง ๆ และคาดว่าจะแห้งขอดไม่เหลือน้ำติดก้นคลองเลยในเร็ววันนี้ เป็นสภาพภัยแล้งรุนแรงที่ใกล้เคียงปี 2558 ขณะที่พื้นที่โดยรวมของ อ.บางระกำในหลาย ๆ ตำบล เต็มไปด้วยนาข้าวอายุ 1-2 เดือน ที่ยังแลดูเขียวขจี แม้ว่ากรมชลประทานจะออกประกาศแจ้งเตือนว่าปีนี้จะงดส่งน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร เนื่องจากน้ำในเขื่อนไม่เพียงพอ แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ ก็เลือกที่จะทำดีกว่าปล่อยให้พื้นที่รกร้างว่างเปล่าจำนวนมาก มีบ่อน้ำบาดาลเป็นของตัวเอง เพื่อดึงน้ำขึ้นมาหล่อเลี้ยงนาข้าว 

นายดำรง ทองรอด อายุ 70 ปี เล่าว่า ตนทำนา 20 ไร่ เดิมใช้น้ำจากคลองบางแก้ว หรือแม่น้ำยมสายเก่าเป็นหลัก โดยสูบน้ำขึ้นมาหลายทอดกว่าจะถึงที่นาของตนเอง แต่ปัจจุบันน้ำในคลองบางแก้ว แทบไม่มีเหลือแล้ว เพราะต่างระดมสูบน้ำกัน ต้องหันมาใช้น้ำจากบ่อบาดาล ที่ลงทุนเจาะบ่อไว้แล้ว ในงบประมาณ 20,000 บาท ซึ่งปกติในหลายปีที่ผ่านมา ชลประทานจะส่งน้ำจากแม่น้ำน่านมาช่วยในพื้นที่ อ.บางระกำ แต่ปีนี้ทางการประกาศงดส่งน้ำ เพราะน้ำในเขื่อนเหลือน้อย ตนยึดอาชีพทำนามานาน และยังมีหนี้สินกับ ธ.ก.ส.อยู่ ถ้าไม่ทำนารอบนี้ ก็จะไม่มีเงินส่งดอกเบี้ยส่งต้นให้กับธนาคาร จะให้ไปทำอาชีพอื่น ก็ทำไม่ไหวและไม่ชำนาญ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดใหม่ ดึง นทท.เข้าไทย

ลอนดอน 22 พ.ค. – นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ตั้งเป้าปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้เป็น Tourism Hub ระดับโลก ชี้ 4 เดือนแรก นักท่องเที่ยวยุโรปเข้าไทยแล้วกว่า 3.5 ล้านคน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัทท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร ผู้บริหารสายบิน เป็นต้น เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของไทย จากนั้น น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า ปีนี้ไทยตั้งเป้าเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้ไทยเป็น Tourism Hub ระดับโลก ที่ผ่านมารัฐบาลทำแคมเปญหลายอย่าง โดยเฉพาะการมุ่งเป้าทำให้การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคนต่อทริป (Spending […]

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

กรุงเทพฯ 22 พ.ค.-“ยิ่งลักษณ์” โพสต์หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งชดใช้ 10,028 ล้านคดีจำนำข้าว ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ รับภาระหนี้จากฝ่ายปฏิบัติ ลั่นหนี้หมื่นล้านชดใช้ทั้งชีวิตยังไงก็ไม่มีวันหมด ทำเพื่อชาวนากลับมีบทสรุปที่เจ็บปวด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความภายหลัง ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี 10,028 ล้านบาท ว่า “เรียน พี่น้องประชาชนที่เคารพ วันที่ 22 พฤษภาคมปีนี้ เป็นวันครบรอบ 11 ปี รัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ และเป็นวันที่ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำวินิจฉัยให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้กว่า 10,000 ล้านบาท จากคดีระบายข้าว ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้ และศาลปกครองกลางได้เคยวินิจฉัยว่าดิฉันไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวมาแล้ว จากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ ทำให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจากการระบายข้าวของฝ่ายปฏิบัติ โดยที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านั้นแต่อย่างใด และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็พิพากษาในคดีของดิฉันว่า ปล่อยปละละเลยในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเป็นนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศจากฐานราก […]

ศาลปกครองสูงสุด สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้านบาท

22 พ.ค. – ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ความเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ ก.คลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351 /2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังเฉพาะส่วน ให้ชดใช้จำนวน 10,028 ล้านบาท และเพิกถอนคำสั่งยึดอาญัติทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาด และคำสั่งอื่น โดยเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำอุทธรณ์ฟังขึ้นบางส่วน ศาลพิจารณาว่าไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการจำนำข้าวเปลือกนาปี แต่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายการระบายข้าวโดยวิธีการขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี จากความเสียหาย 20,057 ล้านบาท เพราะประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย และต้องกำหนดสัดส่วนรับผิด ร้อยละ 50 […]