MEA ปูพรมจัดระเบียบสายสื่อสารกว่า 300 เส้นทาง ใน 3 จังหวัด

กรุงเทพฯ 16 ม.ค.- การไฟฟ้านครหลวงเดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสารที่รกรุงรัง ปูพรมพร้อมกัน 3 จังหวัด รวมกว่า 300 เส้นทาง ระยะทางกว่า 2,200 กิโลเมตร


นายพงษ์ศักดิ์ ละมูนกิจ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA พร้อมด้วยนายประสงค์ คุ้มประดิษฐ์ และนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานจัดระเบียบสายสื่อสารให้เป็นไปตามแผนงาน เพื่อแก้ไขปัญหาสายสื่อสารรกรุงรัง รื้อถอนสายสื่อสารที่ไม่ใช้งานออก และจัดระเบียบสายสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล ณ บริเวณซอยเพชรบุรี 20 ถนนเพชรบุรี กรุงเทพฯ


นายประสงค์ คุ้มประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เล็งเห็นถึงปัญหาสายสื่อสารรกรุงรังและห้อยต่ำ ซึ่งส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ และผลกระทบต่ออุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ MEA รวมถึงความปลอดภัยของประชาชน พร้อมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล MEA จึงเร่งดำเนินการสำรวจเส้นทางที่มีสายสื่อสารรกรุงรังในพื้นที่รับผิดชอบกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ทั้งสิ้น 318 เส้นทาง รวมระยะทางกว่า 2,200 กิโลเมตร ซึ่งมีแผนการรื้อถอนสายสื่อสารที่ไม่ใช้งานออกภายในเดือนมิถุนายนนี้ และจัดระเบียบสายสื่อสารรูปแบบใหม่ รวมถึงบันทึกข้อมูลสายสื่อสารทั้งหมดให้เสร็จสิ้นตามแผนงานภายในปี 2563 โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 ระยะทาง 211.8 กิโลเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการรื้อถอนสายสื่อสารที่ไม่ใช้งานหรือสายตาย และจัดระเบียบสาย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มกราคม 2563 และเฟสที่ 2 อยู่ในระหว่างร่วมกันจัดทำแผนดำเนินการในเส้นทางที่เหลืออยู่


ทั้งนี้ MEA มีการจัดระเบียบสายสื่อสารรูปแบบใหม่ โดยมีขั้นตอนดำเนินการ ได้แก่ 1.บริษัทโทรคมนาคมต่างๆ สำรวจสายสื่อสารของตนเอง พร้อมติดแท็กระบุชื่อบริษัทผู้รับผิดชอบสาย 2.รื้อถอนสายสื่อสารที่ไม่มีเจ้าของ ไม่ถูกใช้งาน หรือสายตาย 3.ติดตั้งคอนสำหรับสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าเพื่อรองรับการพาดสายสื่อสารที่ได้รับอนุญาตจาก MEA พร้อมให้ผู้ประกอบการพาดสายของตนเองให้เป็นระเบียบภายในช่องที่ได้รับอนุญาต และ 4.บันทึกข้อมูลสายสื่อสารในแต่ละเส้นทางในระบบข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System : GIS) เพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูล ป้องกันการละเมิดในภายหลัง ซึ่งจากรูปแบบดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถลดจำนวนการใช้สายสื่อสารลง โดยที่ไม่กระทบต่อลูกค้าผู้ใช้งานเครือข่าย สายสื่อสารมีความเป็นระเบียบ ตลอดจนการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการแต่ละรายสามารถสอดส่องดูแลไม่ให้มีผู้ลักลอบมาพาดสายโดยไม่ได้รับอนุญาตได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับการลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานบริเวณถนนเพชรบุรีในวันนี้ ถือว่ามีความคืบหน้าสามารถดำเนินการตามแผนงานขั้นตอนที่กำหนดไว้ จากความร่วมมือในการจัดระเบียบสายสื่อสารเมืองมหานคร Smart Metro จะช่วยแก้ไขปัญหาสายสื่อสารรกรุงรังและป้องกันการลักลอบพาดสายสื่อสาร และช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยภูมิทัศน์สวยงาม ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง มีความปลอดภัยแก่ประชาชนในระยะยาวต่อไป

ทั้งนี้ หากประชาชนที่พบเห็นปัญหาสายสื่อสารรกรุงรัง สายสื่อสารหลุดห้อย ไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กสทช. โทร. 1200 หรือ LINE@ : @nbtc1200.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้