เอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพแห่พึ่งโรงรับจำนำ

กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – ธุรกิจเอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพ หันหน้าพึ่งโรงรับจำนำต่อยอดธุรกิจ เหตุเข้าไม่ถึงแหล่งทุน  คาดตลาดโรงรับจำนำปีนี้โตร้อยละ 10 


นายสิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด ผู้ให้บริการโรงรับจำนำอีซี่ มันนี่ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้โรงรับจำนำไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งปกติจะมีประชาชนทยอยมาไถ่ทองคำและทรัพย์สินอื่น ๆ คืนจากโรงรับจำนำจำนวนมาก เพื่อนำไปสวมใส่หรือมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลตรุษจีน คาดเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว และราคาทองคำที่ผันผวนไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงรับจำนำ เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญคอยติดตามสถานการณ์ราคาทองอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ มูลค่ารวมของธุรกิจโรงจำนำในเมืองไทยมากกว่า 100,000 ล้านบาท คาดปีนี้ตลาดโรงรับจำนำโตร้อยละ 10 ขณะที่อีซี่ มันนี่ ตั้งเป้ารับจำนำปีนี้เติบโตร้อยละ 20 จากปัจจุบันมียอดจำนำสะสมหรือเงินหมุนเวียนอยู่ที่หลักหมื่นล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ขยายตัวร้อยละ  25 ซึ่งโครงสร้างรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากรายได้ดอกเบี้ยและมีบางส่วนที่มาจากรายได้จากการขายสินค้าหลุดจำนำ โดยลูกค้าทั่วไปจำนำเฉลี่ยต่อราย 20,000 บาท ขณะที่เอสเอ็มอีจำนำเฉลี่ยต่อราย 100,000 บาท 


สำหรับปัจจุบันมีผู้ประกอบการใช้โรงรับจำนำเป็นแหล่งทุนมากขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของลูกค้าทั้งหมด บางรายมีไอเดียดี แต่ไม่มีประวัติกับธนาคารก็ได้เข้ามาใช้บริการโรงรับจำนำ เพื่อนำเงินไปต่อยอดธุรกิจ โดยปีนี้คาดว่าลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีจะขยายตัวถึงร้อยละ 20 เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยทรัพย์ที่รับจำนำมากสุด คือ ทองคำ รองลงมา คือ เพชร นาฬิกา และสินค้าแบรนด์เนม ตามลำดับ พร้อมยอมรับว่าการนำสินค้าแบรนด์เนมจำนำมากขึ้น เพราะสังคมเปลี่ยน รสนิยมคนเปลี่ยน ใช้ของดีเพิ่มขึ้นทุกอาชีพและทุกช่วงอายุสะท้อนพฤติกรรมลูกค้าที่ฉลาดใช้ ฉลาดซื้อ และเป็นคนเก็บเงินได้ ใช้เงินเป็น เช่น คนเก็บเงินในรูปนาฬิกาโรเล็กซ์ ซึ่งเป็นทรัพย์ราคามีแต่เพิ่มขึ้น เมื่อเห็นโอกาสลงทุนก็เปลี่ยนเป็นสภาพคล่องและต้องการเงินหมุนเวียนไปใช้ในธุรกิจระยะสั้น จึงเป็นดอกเบี้ยและได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งปีที่ผ่านมาทรัพย์หลุดจำนำมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 4.9 ไม่แตกต่างจากปีก่อนหน้า และคาดว่าปี 2563 น่าจะเป็นตัวเลขใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม อีซี่ มันนี่ ยืนยันยังไม่พร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอเวลาศึกษารายละเอียดก่อน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ