เรียงแถวโต้ “บิ๊กโจ๊ก” ยัน “ไบโอเมทริกซ์” ใช้งานได้จริง

กทม. 9 ม.ค.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบ “ไบโอเมทริกซ์” ประสานเสียงโต้ “บิ๊กโจ๊ก” ยันใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพ พร้อมเปิดสถิติผลการใช้งานที่ผ่านมา


จากกรณี พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พาดพิงถึงระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำมาใช้ตรวจสอบชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าออกประเทศไทย ว่าไม่สามารถใช้งานได้จริง ไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่คิดนั้น พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ไม่ทราบว่าพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ เอาข้อมูลมาจากไหนว่าระบบไบโอเมทริกซ์ไม่สามารถใช้งานได้จริง ทั้งที่เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงใช้งานได้จริง ที่ผ่านมาสามารถจับกุมชาวต่างชาติที่ต้องคดี หรือมีประวัติก่ออาชญากรรม ที่พยายามหลบหนีเข้าประเทศไทย หรือหลบหนีเข้ามาได้จำนวนมาก จึงถือว่าการนำระบบนี้มาใช้มีความคุ้มค่า ที่สำคัญคือช่วยสร้างความเชื่อมั่นใจให้นานาประเทศว่าประเทศไทย มีระบบคัดกรองที่มีมาตรฐานความปลอดภัย อีกทั้งป้องกันการทุจริตของเจ้าหน้าที่ได้อีกด้วย จึงถือว่าการนำระบบไบโอเมทริกซ์มาใช้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ที่ออกมาชี้แจงก็เพื่อต้องการสร้างความเข้าใจแก่สังคม

พลตำรวจโทสมพงษ์  ยังระบุด้วยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้อนุมัติโครงการ มีเป้าประสงค์เพื่อยกระดับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับนานาชาติ พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ไม่ควรนำเรื่องระบบไบโอเมตริกซ์ไปเชื่อมโยงกับความขัดแย้งส่วนตัว


พลตำรวจตรีสุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ให้ผู้เชี่ยวขาญจากหลายหน่วยงานมาตรวจสอบว่าระบบไบโอเมทริกซ์ใช้งานได้จริงหรือไม่ ซึ่งได้รับรายงานยืนยันว่าเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพใช้งานได้จริง โดยตั้งแต่ตนมาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อยู่ระหว่างส่งงานงวด 3 ซึ่งปัจจุบันติดตั้งไปครบทั้ง 6 งวดแล้ว ตามสัญญา และตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ตรวจสอบคนมาแล้ว 48 ล้านคน จับกุมบุคคลตามแบล็คลิสต์ได้ 4,353 คน ตรวจสอบบุคคลที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินเวลาที่กำหนดหรือ โอเวอร์สเตย์ 126,989 คน จับกุมได้ 3,166 คน ได้เงินค่าปรับไปแล้วกว่า 240 ล้านบาท อีกทั้งยังเห็นว่า พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ นำเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวมาเชื่อมโยงกับระบบไบโอเมทริกซ์ เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้อนุมัติโครงการ ตนก็พร้อมจะชี้แจงกับ ป.ป.ช.เพราะทุกขั้นตอนตั้งแต่การจัดซื้อ การตรวจสอบ และการนำมาใช้ มีความโปร่งใส

ด้านนายอาศิส อัญญะโพธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลพัฒนาดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หนึ่งในผู้ร่วมตรวจสอบระบบไบโอเมทริกซ์ ก็ยืนยันเช่นกันว่าเป็นระบบที่มีมาตรฐานสากล ท่าอากาศยานชั้นนำของโลกหลายแห่งก็ใช้ระบบนี้ พร้อมกับยืนยันเช่นกันว่าระบบไบโอเมทริกซ์ใช้งานได้จริง แต่อาจจะมีความล่าช้าในการเชื่อมโยงระบบไปบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ เมื่อทุกอย่างเข้าระบบก็จะสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ส่วนพันตำรวจเอกเชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ในฐานะผู้ปฎิบัติงานที่ควบคุมดูแลท่าอากาศยานนานาชาติในประเทศไทย ยืนยันว่า ได้นำระบบไบโอเมทริกซ์มาช่วยในการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ ทำให้การตรวจสอบบุคคลมีความแม่นยำ เพราะมีฐานข้อมูลบุคคลต้องสงสัยหรือบุคคลต้องห้าม จนสามารถคัดกรองบุคคลเข้าออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย