สอน.ฟันธงปีนี้ชาวไร่ส่งอ้อยสดเข้าโรงงานร้อยละ 50

กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – สอน.ระบุราคาอ้อยตกต่ำ เงินบาทแข็งค่ากระทบราคาส่งออก ขณะที่ค่าแรงตัดอ้อยยังสูง  ส่งผลให้เป้าหมายส่งอ้อยสดเข้าโรงงานน้ำตาลพลาดเป้าหมายที่แจ้งกับ ครม.ไว้ว่าฤดูกาลผลิตปีนี้ 2562/2563 จะได้อ้อยสดร้อยละ 70 ต้องปรับลดสัดส่วนอ้อยสดเหลือเพียงร้อยละ 50 เท่ากับอ้อยไฟไหม้ 


นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยสำนักข่าวไทยว่า จากการประชุมร่วมกันระหว่างชาวไร่อ้อยและ สอน. เรื่องลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ส่งเข้าหีบโรงงานน้ำตาลด้วยการลดการเผาไร่อ้อยในขั้นตอนเก็บเกี่ยว โดยหันมาใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวมากขึ้นผ่านการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากรัฐบาลปีละ 2,000 ล้านบาท รวม 6,000 ล้านบาทนั้น ล่าสุดได้ข้อสรุปว่าจากเป้าหมายที่ สอน.นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีว่าฤดูกาลผลิตปีนี้ 2562/2563 จะมีอ้อยไฟไหม้เพียงร้อยละ 30 ขณะที่มีสัดส่วนอ้อยสดเข้าหีบโรงงานน้ำตาลเพิ่มเป็นร้อยละ 70 นั้น เป้าหมายดังกล่าวนั้น ชาวไร่อ้อยแจ้งว่าไม่สามารถปรับตัวได้ทัน จึงขอปรับเป้าหมายเป็นอ้อยสดเข้าหีบโรงงานน้ำตาลเท่ากับอ้อยไฟไหม้ที่ร้อยละ 50 ต่อ 50 เนื่องจากต้นทุนการตัดอ้อยในไร่อ้อยของเกษตรกรชาวไร่อ้อยยังคงสูงและขาดแคลนแรงงาน การส่งออกน้ำตาลตลาดโลกไม่ดีเงินบาทแข็งค่าก็ส่งผลกระทบ ขณะที่สถานการณ์ราคาอ้อยก็ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตอ้อยที่อยู่ในระดับตันละกว่า 1,000 บาท โดยราคาอ้อยขั้นต้นตันละ 750 บาทเท่านั้น ชาวไร่อ้อยจึงขอเวลาปรับตัว

ข้อมูลอ้อยเข้าหีบโรงงานน้ำตาลจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2563 มีอ้อยเข้าหีบ 26.14 ล้านตัน ในจำนวนนี้เป็นอ้อยสด 13.94 ตัน ประมาณร้อยละ 50 ของอ้อยที่ส่งเข้าหีบที่โรงงานน้ำตาลทั้งหมด ที่เหลือเป็นอ้อยไฟไหม้ ซึ่งอ้อยไฟไหม้ส่งเข้าโรงงานน้ำตาลฤดูกาลผลิตปี 2562/2563 คาดว่าจะมีสัดส่วนร้อยละ 50 ของผลผลิตรวมปีนี้คาดว่าจะมียอดรวม 110 ล้านตันอ้อย จะถูกหักราคาลงตันละ 30 บาท โดยเงินส่วนนี้โรงงานจะเฉลี่ยจ่ายให้กับชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยสดในโรงงานนั้น ๆ แทน อย่างไรก็ตาม สอน.เชื่อว่าภายใน 3 ปีนับจากนี้ไปสัดส่วนอ้อยไฟไหม้จะลดลงมากจนเหลือประมาณร้อยละ 10-20 ของอ้อยทั้งหมดที่ผลิตได้แต่ละปี โดยสัดส่วนอ้อยสดที่ส่งเข้าโรงงานน้ำตาลจะทยอยเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับร้อยละ 80-90 ได้ในฤดูการผลิตปี 2564/2565 หรืออีก 2 ฤดูกาลผลิตข้างหน้า ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนระยะห่างของการปลูกอ้อยเพิ่มจากปัจจุบันช่วงห่างกออ้อย 1.20-1.50 เมตรที่รถตัดอ้อยเข้าไปตัดไม่ได้ เพราะจะทำความเสียหายกออ้อย ซึ่งชาวไร่อ้อยจะทยอยปรับเปลี่ยนระยะห่างกออ้อย โดยปลูกใหม่และเพิ่มระยะห่างเป็น 1.80 เมตร ช่วยให้รถตัดอ้อยเข้าไปตัดอ้อยได้ไม่ทำลายกออ้อยเป็นการช่วยเพิ่มอ้อยสดที่ได้ราคาสูงขึ้น


สำหรับผลผลิตน้ำตาลฤดูกาลผลิตปี 2562/2563 คาดว่าจะได้น้ำตาลประมาณ 12 ล้านตัน โดยคำนวณจากอ้อย 1 ตัน ผลิตน้ำตาลได้ 102-103 กิโลกรัม ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังคงปรับเพิ่มขึ้นล่าสุดราคาอยู่ในระดับ 13.4-13.5 เซ็นต่อปอนด์ และผลพวงจากภัยแล้งจะทำให้แนวโน้มราคาดีขึ้น แต่ก็จะส่งผลกระทบกับเกษตรกรชาวไร่อ้อยเช่นกัน เพราะผลผลิตลดลงรายได้ย่อมลดลงตามไปด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง