กรมชลฯ เร่งระบายน้ำท้ายเจ้าพระยาเจือจางค่าความเค็ม

กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – กรมชลประทานเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ สู่แม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้าย เพื่อเจือจางค่าความเค็มไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา ภาคการเกษตร และอุตสาหกรรม


นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการเพิ่มปริมาตรน้ำที่ระบาจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท 100 ลบ.ม./วินาที โดยจะคงการระบายอัตรานี้ถึงวันพุร่งนี้ (10 ม.ค.) จากนั้นจะทยอยปรับลดลงจนอยู่ที่ 90 ลบ.ม./วินาที ส่วนเขื่อนพระราม 6 ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้น ระบาย 11 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้ แล้วจะทยอยปรับลดเช่นกัน 


ทั้งนี้ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ คาดการณ์ว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดวันที่ 12-13 มกราคม จากนั้นจะลดลงตามลำดับ ระหว่างนี้ได้เร่งสูบน้ำจากแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ มาสู่แม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้าย เพื่อเจือจางค่าความเค็มน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเดินเครื่องสูบน้ำ 12 เครื่องที่ประตูระบายน้ำ (ปตร.) พระยาบรรลือ สูบน้ำที่ผันมาจากแม่น้ำแม่กลองผ่านแม่น้ำท่าจีนลงสู่คลองพระยาบรรลือระบายผ่านประตูระบายน้ำสิงหนาท 2 ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา 36 ลบ.ม./วินาที

ปตร.พระยาบรรลือ สูบน้ำ 12 เครื่อง (จาก 14 เครื่อง เครื่องละ 3 ลบ.ม./วินาที) ปริมาณน้ำ 36 ลบ.ม./วินาที เดินเครื่องผลักดันน้ำ 14 จุด รวม 72 เครื่อง โดยจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปยังสถานีสูบน้ำสำแล จังหวัดปทุมธานีซึ่งเป็นสถานีสูบน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาเลี้ยงกรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ยังสั่งให้สำนักเครื่องจักรกลเปิดเส้นทางน้ำคลองพระพิมลซึ่งเชื่อมจากแม่น้ำท่าจีนมายังคลองบางบัวทอง ก่อนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่ปตร.สน.พระพิมล 5 เครื่อง มีแผนระบายน้ำ 15 ลบ.ม./วินาที แต่เนื่องจากน้ำในคลองไม่ยกตัว จึงสูบออกที่ปตร.บางบัวทองได้บางช่วงเวลาเท่านั้น นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือจากการประปานครหลวงเพิ่มการสูบน้ำจากคลองประปาที่เชื่อมจากแม่น้ำท่าจีนมาลงคลองปลายบางบริเวณหน้าโรงกรองน้ำมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี จาก 6 ลบ.ม./วินาที เป็น 10 ลบ.ม./วินาที เพื่อให้น้ำจืดมาเจือจางค่าความเค็มของแม่น้ำเจ้าพระยาช่วยให้สามารถผลิตน้ำประปาได้ตามปกติ ประกอบกับเปิดบาน ปตร. คลองลัดโพธิ์ในช่วงเวลาน้ำลง ตั้งแต่เวลา 15.30- 21.30 น. รวม 6 ชั่วโมง

นายทองเปลว กล่าวต่อว่า การเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาลดลง จากเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) เวลา 06.00 น. อยู่ที่ +14.10 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) เช้านี้ (9 ม.ค.) อยู่ที่ +14.00 เมตร รทก. และคาดว่าวันพรุ่งนี้จะอยู่ที่ +13.50 เมตร รทก. แต่จะไม่ลดต่ำไปกว่านี้เนื่องจากจะทยอยปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ขณะนี้ขอความร่วมมือโครงการชลประทาน 2 ฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดการรับน้ำเข้าระบบชลประทานให้เป็นไปตามแผนอย่างเคร่งครัด โดยขณะนี้น้ำยังสามารถเข้าไหลเข้าคลองชลประทานทุกสายและไหลย้อนขึ้นสู่แม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานีได้


“ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาวิกฤติภัยแล้งปี 2562/2563 กรมชลประทานจะติดตามและแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง สำหรับลุ่มเจ้าพระยาจะเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนจะเกิดอีกครั้งปลายเดือนนี้ ซึ่งเตรียมส่งเครื่องจักร-เครื่องมือควบคุมค่าความเค็มให้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ตลอดจนพร้อมแก้ไขปัญหาการขาดแคลน้ำในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง” นายทองเปลว กล่าว

นายทองเปลว กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการยกระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท สูงขึ้นเกินกว่า +14 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วจนถึงต้นสัปดาห์นี้ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณประตูระบายน้ำประพาสต้นและประตูระบายน้ำขุมทรัพย์ ซึ่งเชื่อมต่อกับแม่น้ำสะแกกรังอยู่ที่ระดับ +14.25 เมตร รทก. น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลย้อนเข้าแม่น้ำสะแกกรังซึ่งอยู่เหนือเขื่อนได้เพิ่มขึ้น โดยการลำเลียงน้ำทางประตูระบายน้ำประพาสต้นจะผ่านบึงขุมหมาลงสู่แม่น้ำสะแกกรัง ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนทางประตูระบายน้ำขุมทรัพย์จะผ่านบึงขุมหมาเช่นกัน แล้วลงแม่น้ำสะแกกรัง ระยะทาง 1 กิโลเมตร ซึ่งบรรเทาปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรังตอนล่างจังหวัดอุทัยธานีได้แล้ว นอกจากนี้ ยังกำชับให้กำจัดวัชพืชในลำน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้น้ำไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้นด้วย 

ทั้งนี้ กรมชลประทานมีแผนงานสร้างสถานีสูบน้ำบริเวณประตูระบายขุมทรัพย์ ซึ่งอยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 จำนวน 80 ล้านบาท ส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำและอาคารบังคับน้ำในบึงขุมหมา กำหนดไว้ในแผนปีงบประมาณ 2564 สำหรับระยะยาวจะเร่งรัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสะแกกรังตอนบน โดยการก่อสร้างประตูระบายน้ำเขาชนกัน เพื่อปิดปากแม่น้ำสะแกกรังกันไม่ให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเพื่อใช้บริหารจัดการน้ำและกักเก็บน้ำไว้ใช้ให้เพียงพอตลอดฤดูแล้งต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง