กทม. 8 ม.ค. – สำนักข่าวไทย อสมท พาย้อนไปดูเอกสารที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยื่นให้ ผบ.ตร. ยกเลิกสัญญาการจัดซื้อในโครงการไบโอเมทริกซ์ หลังพบปัญหาหลายอย่าง เช่น ระบบทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ และบริษัทเอกชนส่งงานล่าช้า “บิ๊กโจ๊ก” เชื่อว่าการคัดค้านโครงการนี้เป็นชนวนเหตุในการถูกยิงขู่ ติดตามรายงานจากทีมข่าวสำนักข่าวไทย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ให้สัมภาษณ์หลังเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มรถยนต์ เชื่อมั่นว่าเกิดจากผู้สูญเสียผลประโยชน์ในโครงการไบโอเมทริกซ์ หรือระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้าของ สตม. ซึ่งเขาได้เคยเสนอยกเลิกไปในสมัยที่เป็นผู้บัญชาการ สตม. เพราะเห็นว่า ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่เป็นไปตามข้อกำหนดการจัดซื้อจัดจ้าง
นี่เป็นบันทึกข้อความของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2561 ที่เสนอ ผบ.ตร. ให้พิจารณายกเลิกข้อตกลงโครงการไบโอเมทริกซ์ สตช.ทำสัญญาจัดซื้อคุรุภัณฑ์กับบริษัทเอกชน วงเงินกว่า 2,000 ล้านบาท เทคโนโลยีนี้จะใช้งานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจจับคนร้ายจากใบหน้าและลายนิ้วมือ เช่น คนร้ายที่มีการเปลี่ยนแปลงใบหน้า การตรวจสอบทำได้ยากขึ้น อาจหลบหนีเข้า-ออกประเทศ แต่ระบบนี้จะเพิ่มการตรวจสอบลายนิ้วมือได้ด้วย
สัญญาการจัดซื้อกำหนดส่งมอบคุรุภัณฑ์ให้ สตช.ใน 660 วัน แบ่งเป็น 6 งวด งวดแรกภายใน 9 กันยายน 2560 จนถึงงวดสุดท้ายกลางปี 2562 แต่กลับพบว่าเอกชนส่งมอบคุรุภัณฑ์ตรงตามกำหนดเพียงงวดเดียว อีกทั้งระบบไบโอเมทริกซ์ยังเชื่อมต่อกับระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (PIBICS) ที่ สตม.ใช้ในขณะนั้น ยังทำไม่ได้ งวดที่ 2 ส่งมอบงานล่าช้า งวดที่ 3 ต้องส่งมอบอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ พร้อมติดตั้งระบบงานที่สนามบินเชียงราย แต่มีเพียงการทดสอบระบบ ส่วนงวดที่เหลือก็ไม่ได้ส่งมอบตามสัญญา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย และรักษาผลประโยชน์ทางราชการ จึงเห็นควรพิจารณาใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาโครงการ
ต่อมา 7 มกราคม 2562 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ทำหนังสือถึง ผบ.ตร. เสนอพิจารณาการใช้สิทธิยกเลิกสัญญาเรื่องเดียวกันนี้อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่เขาจะได้รับคำสั่งให้ยุติบทบาทข้าราชการตำรวจ ไปเป็นข้าราชการพลเรือน ในเดือนเมษายน
ส่วนนี่เป็นหนังสือที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ทำหนังสือถึง ป.ป.ช. เมื่อ 28 พฤษภาคม 2562 ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบการจัดซื้อคุรุภัณฑ์การจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ และโครงการไบโอเมทริกซ์ โดยระบุว่า เมื่อปี 2558 สตช.ได้ทำสัญญาโครงการนี้กับบริษัทเอกชน แต่เอกชนไม่ได้ส่งมอบคุรุภัณฑ์ตามสัญญา สตช.กลับขยายเวลาสัญญาออกไปจากกำหนดส่งมอบ 2 พฤษภาคม 2562 เป็น 30 มิถุนายน 2562 มีลักษณะเอื้อประโยชน์บริษัทเอกชนคู่สัญญา จึงขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการทุจริต และตรวจสอบโครงการว่ามีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพใช้ได้จริงหรือไม่
โครงการร้อนไบโอเมทริกซ์ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท กำลังถูกตั้งคำถามเรื่องประสิทธิภาพ และความโปร่งใสในปัจจุบัน. – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
►BIG STORY : เปิดใจ “บิ๊กโจ๊ก” ยันรู้ตัวคนสั่งยิงรถ ปมโครงการไบโอเมทริกซ์