“บิ๊กโจ๊ก” ให้ปากคำยัน”รู้ใครสั่งยิง” ลั่น 3 วันไร้วี่แววจับคนร้าย ผบ.ตร.ต้องรับผิดชอบ

กรุงเทพฯ 8 ม.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” ให้ปากคำยัน”รู้ใครสั่งยิง” ลั่น  3 วันไร้วี่แววจับคนร้าย ผบ.ตร.ต้องรับผิดชอบ


พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เข้าพบ พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ข้อมูลในคดีถูกลอบยิงรถยนต์ส่วนตัวเมื่อคืนวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา

พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ส่วนตัวอยากกลับมาเป็นตำรวจ แต่คงไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องหรือสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ตัวเองเด่นดัง เพราะตั้งแต่พ้นจากตำรวจก็เก็บตัวเงียบมาตลอดไม่เคยออกมาโวยวายหรือร้องขอต่อสื่อมวลชน และส่วนตัว ยังคงเชื่อมั่นว่า สาเหตุที่ถูกลอบยิงรถยนต์ มาจากการที่ตัวเอง เตรียมเข้าเป็นพยาน กรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. สอบสวนโครงการจัดซื้อจัดจ้างซื้อไบโอแมทริกซ์ ซึ่งส่วนตัว มองว่า โครงการนี้  มีมูลค่าสูงถึง 2,000 ล้านบาท และผ่านการพิจารณาเรื่องจากอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มามากถึง 3 คน ดังนั้น การที่ตัวเองตัดสินใจ ยกเลิกโครงการนี้ ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถือเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับ 


พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ยังเชื่อมั่นว่าคดีนี้น่าจะจับตัวคนก่อเหตุได้ไม่ยาก เพราะมีกล้องวงจรปิดมากมาย และส่วนตัว ทราบผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง โดยเป็นผู้มีอำนาจ และเรียกร้องให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจวาระประจำปีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมายืนยันว่า มีการแต่งตั้งคนดีเข้ามาทำงาน ซึ่งหากจับผู้ก่อเหตุไม่ได้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องรับผิดชอบ

และการเข้าให้ปากคำวันนี้ (8 ม.ค.)พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้นำเอกสารลับ ปัญหาการใช้งานระบบไบโอแมทริซ์ ของ ตม.จังหวัดชลบุรี มาประกอบการสอบปากคำ โดยในเอกสารระบุข้อขัดข้องดังนี้

๑ ไม่มีระบบตรวจสอบบุคคลต้องห้ามและบุคคลฝ้าระวังคนต่างด้าวก่อนการพิจารณาอนุญาตให้อยู่ต่อในรชอาณาจักร


๒. การประมวลผลล่าช้า ไม่สามารถเรียกดูข้อมูลที่บันทึกแล้วได้ภายในวันเดียวกัน บางข้อมูลสามารถเรียกดูได้ต้องรอถึง ๒ วัน

๓. รายการเปรียบเทียบปรับ เมื่อปรับแล้วมาทำรายการขออยู่ต่อ ระบบให้กรอก

เลขที่ปรับ เล่มใบเสร็จค่าปรับ แต่ไม่สามารถกรอกซ้อมูลได้ เพราะไม่มีช่องให้กรอก ปัจจุบันแก้ปัญหาโดยการหมายเหตุ แล้วกดบันทึกข้อมูล

๔ เมื่อพบความผิดพลาดจากเจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบิน

คอนเมือง ให้วันอนุญาตหรือประเภทวีซ่าผิด เจ้าหน้าที่ขออยู่ต่อต้องการ

แก้ไขในระบบให้ถูกต้อง แต่ไม่สามารถแก้ไขได้

๕. ระบบการรายงานสถิติ ข้อมูลในการลงระบบไม่ครบถ้วน เช่น ไม่สามารถ

แยกสถิติรายวัน รายเดือน หรือสัญชาติ ซึ่งในการปฏิบัติงานมีความจำเป็น

ต้องรายงานสถิติ

๖. การแก้ไขข้อมูล สามารถปิดระบบแก้ไขที่หน้าจอได้ แต่เมื่อพิมพ์รายงาน

พบว่าข้อมูลไม่ได้มีการแก้ไขแต่อย่างใด

๗. เห็นควรเพิ่มช่องให้กรอกประเภทวีซ่าในหน้าระบบการขออยู่ต่อ

๘. ระบบไม่สามารถชื่อมต่อกับ Printer พิมพ์ใบเสร็จต่อเนื่องได้

อย่างไรก็ตามวันนี้ก่อนเดินทางไปให้ปากคำในคดียิงรถรถยนต์เลกซัส ท้องที่ สน.บางรัก  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หรือ บิ๊กโจ๊ก ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวไทย โดยบิ๊กโจ๊ก  มีสีหน้าสดใส ทักทายอย่างเป็นกันเอง  และเป็นการปรากฎตัวอย่างเป็นทางการ    หลังจากถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี เก็บตัวเงียบหายจากสังคมไปนานเกือบ 9 เดือน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์   ย้ำชัดๆ ว่า  มูลเหตุลอบยิงรถยนต์ขณะไปนวดฝ้าเท้า ที่ย่านสุรวงศ์    มาจาการที่ตนเข้าไปเป็นพยานให้ ปปช. กรณีโครงการไบโอแมทริกซ์ ของ สตม.  ทำให้มีผู้เสียผลประโยชน์ และผู้เสียผลประโยชน์ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจมาก  ไม่พอใจ  จึงสั่งการให้คนลงมือกับตนเองเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา(6 ม.ค.)  พร้อมกับย้ำว่า เคยคัดค้านไบโอแมทริกซ์ ซึ่งมีมูลค่าโครงการเกือบ 2 พันล้านบาท ถึง 2  ครั้ง แต่ไม่เป็นผล    อย่างไรก็ตาม แม้จะเกิดเหตุปองร้าย ก็จะเดินหน้าให้ข้อมูลความจริงต่อ ปปช. ต่อไป 

อย่างไรก็ตาม  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์   ยืนยันอีกว่าเห็นภาพผู้ต้องสงสัย 2 คนที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ และเป็นการยิงระยะใกล้ จึงตอบไม่ได้ว่าเป็นคนมีสีหรือไม่ เพราะการยิงแบบนี้ ใครๆก็ยิงได้ มั่นใจผู้สั่งการต้องการข่มขู่เท่านั้น ไม่ได้มุ่งหวังเอาชีวิต ที่สำคัญตนทราบตัวคนสั่งยิงด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา มีความพยายามจากอีกฝ่ายเรียกตนเข้าไปพูดคุยเพื่อให้ถอนตัวจากเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง ส่วน ประเด็นแต่งตั้งโยกย้ายที่ตนเคยทำบัญชีโยกย้ายตำรวจ ไม่เชื่อว่าจะเป็นชนวนก่อเหตุครั้งนี้

หลังจากให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวไทย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  ได้เดินทางออกจากจุดนัดพบ เพื่อไปเตรียมตัว ก่อนจะเดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ในเวลา 12 นาฬิกา 30 นาที  ซึ่ง ยืนยันว่า การให้ปากคำจะพุ่งเป้าไปเลยว่า ถูกลอบยิงด้วยสาเหตุใด แต่จะไม่บอกว่าใครสั่งยิงรถยนต์ ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการขยายผลจับกุม พร้อมยืนยัน ไม่ได้จัดฉากโปรโมทตัวเอง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย