“จารุวรรณ” แต่งดำนำทีม ส.ส.อนาคตใหม่ บุก กกต.รอบ 3

กกต. 7 ม.ค.-“จารุวรรณ” แต่งดำนำทีม ส.ส.อนาคตใหม่ บุก กกต.รอบ 3 ขอคัดสำเนาการสืบสวน ไต่สวน และคำวินิจฉัยของ กกต. มติยุบพรรค


น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายอนาวิล รัตนสถาพร  ส.ส.เขต 3 ปทุมธานี และทนายความ เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทวงถามความคืบหน้า เรื่องขอคัดสำเนาการสืบสวน ไต่สวน และคำวินิจฉัยของ กกต. จากกรณีมีมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และมีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจด้วย โดยทั้งหมดแต่งกายในชุดสีดำ

น.ส.จารุวรรณ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ได้มาติดตามเพื่อทวงถามตามเอกสารที่ได้ยื่นไว้ก่อนหน้านี้ที่ กกต.อ้างว่าได้พิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าว จากคำให้การของพยานปากใด หรือเอกสารใดในสำนวนการสืบสวนหรือไต่สวนคดีนี้  แต่ในคำแถลงการณ์ดังกล่าว ไม่ปรากฏ เป็นการกล่าวอ้างขาดข้อเท็จจริงและพยานยืนยัน เสมือนการพิจารณาและวินิจฉัยดังกล่าวเป็นการตีความตามความคิดและความเข้าใจของ กกต.เสียงข้างมากเท่านั้น อันขัดกับหลักพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2537 ว่าคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วยและเหตุผลนั้น อย่างน้อยต้องประกอบด้วยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ ข้อกฎหมายที่อ้างอิง และข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ และตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด ที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่  คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เลขาธิการ กกต. คณะอนุกรรมการวินิจฉัย และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องพิจารณาแล้วสรุปความเห็นโดยให้มีเหตุผลในการพิจารณาทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงเท่านั้น


น.ส.จารุวรรณ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ก็ไม่มีข้อเท็จจริงในคำวินิจฉัย หรือรายงานการสอบสวนว่าการสืบสวนไต่สวนและคำวินิจฉัยดังกล่าวได้มีการกระทำตามขั้นตอน และมีการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแก่พรรคการเมืองและคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง เพื่อให้ชี้แจงแสดงหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาอันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมตามกฎหมาย ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด ถ้าการดำเนินการดังกล่าวไม่ครบถ้วนตามกำหนด ก็จะมีผลทำให้คำวินิจฉัยดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีผลให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ เพื่อความยุติธรรมและใช้สิทธิตามกฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสในการต่อสู้ข้อกล่าวหาอย่างเป็นธรรม จึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ

“ขนาดดิฉัน เป็น ส.ส. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับการเลือกตั้งมาอย่างถูกต้อง ยังถูกกระทำด้วยกระบวนการกฎหมายที่ส่อว่าไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม และการดำเนินการต่าง ๆ ของ กกต. ส่อให้เห็นว่ามีเหตุจงใจใช้อำนาจโดยมิชอบ และการถูกกระทำเช่นนี้ จะบอกกับพี่น้องประชาชนที่เลือกดิฉัน และพรรคอนาคตใหม่ได้อย่างไร จะปกป้องด้วยสิทธิเสรีภาพแห่งความยุติธรรมได้อย่างไร  หากในครั้งนี้ยังไม่ได้รับเอกสารใด ๆ ตามที่ได้ร้องขอ ถือว่า กกต.มีเจตนาจงใจกระทำความผิด ปกปิดซ่อนเร้น อำพรางข้อมูลอันเป็นสิทธิตามกฎหมาย และเข้าข่ายมีความผิดฐานการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ม.157 อีกทั้งยังบังอาจมีเจตนาจงใจละเมิดสิทธิใช้อำนาจโดยมิชอบ ดิฉันจะไม่ยอมย่อท้อและจะขอใช้สิทธิแห่งความยุติธรรมเพื่อต่อสู้เรียกร้องฟ้องเอาผิดกลับ ตามสิทธิกระบวนการกฎหมายต่อไปอย่างถึงที่สุด” น.ส.จารุวรรณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ประชาชนที่มาให้กำลังใจ กล่าวว่าจะช่วยกันออกเงินเพื่อคัดสำเนาการสืบสวน ไต่สวน และคำวินิจฉัยของ กกต. หาก กกต.อ้างมีเอกสารจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากนั่งรอประมาณ 1 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ น.ส.จารุวรรณ พร้อมตัวแทน 3 คน ขึ้นไปพบกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีรายละเอียดว่าไปพบใคร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท